เปิดแจ้งครอบครอง "กัญชา" วันที่สอง บรรยากาศยังกร่อย พบผู้ป่วยมะเร็งเต้านมยื่นแจ้งครอบครองน้ำมันกัญชา เหตุทนความเจ็บป่วยจากคีโมไม่ไหว ระบุได้มาจากเครือข่ายแม่มดกัญชา ด้านลูกหมอแผนโบราณเดินทางมาแจ้งแทนแม่ด้วย ขณะที่สายด่วนปรึกษาของ อย.ล่มเป็นวันที่สองเช่นกัน
วันนี้ (28 ก.พ.) ที่ศูนย์บริการผลิตภัณฑ์สุขภาพเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเปิดรับแจ้งการครอบครองกัญชาเป็นวันที่ 2 หลังประกาศกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับการรินโทษ 3 ฉบับออกมาบังคับใช้ ในกลุ่มองค์กรวิจัย ผู้ประกอบวิชาชีพ กลุ่มผู้ป่วย และกลุ่มบุคคลอื่น ตั้งแต่ช่วงเช้ายังไม่มีผู้มาติดต่อแจ้งการครอบครอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการจัดเตรียมเอกสารการขออนุญาตครอบครองกัญชาไว้ ขณะที่สายด่วน อย. 1556 กด 3 กลับมีผู้โทรศัพท์สอบถามอย่างต่อเนื่อง และระบบได้ล่มเป็นวันที่สอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการแก้ไขจนใช้ได้ตามเดิม โดยส่วนใหญ่ของการสอบถามเป็นเรื่องของขั้นตอนการอนุญาตปลูกกัญชา จำหน่าย นำเข้า และส่งออก
ต่อมา เวลา 11.00 น. จึงมีผู้ป่วยเดินทางมาแจ้งการครอบครอง โดยผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ซึ่งได้นำสารสกัดกัญชาขนาด 5 มิลลิลิตร (ซีซี) มาสำแดง เพื่อขอครอบครองกัญชา โดยผู้ป่วยรายดังกล่าว ระบุว่า มีสารสกัดกัญชามาตั้งแต่ปลาย ธ.ค. 2561 ซึ่งสาเหตุที่หันมาใช้สารสกัดกัญชา เพราะไม่สามารถทนต่อผลข้างเคียงจากการได้รับยาเคมีบำบัดหรือคีโมได้ และเห็นว่า หากมาแจ้งการครอบครองสารสกัดจากกัญชา จะทำให้ไม่ต้องระแวงว่า จะถูกตำรวจดำเนินคดี สำหรับสารสกัดกัญชานั้นได้มาจากการสั่งจากกลุ่มเครือข่ายแม่มดกัญชาและลุงตู้
ขณะที่เวลาประมาณ 11.30 น. นายธนาธิป รัตนโรจน์ เดินทางมายื่นการแจ้งครอบครองกัญชาแทนมารดา ซึ่งเป็นแพทย์แผนโบราณในย่านเตาปูน โดยระบุว่า ตนมาเป็นตัวแทนของมารดา ซึ่งเป็นแพทย์แผนโบราณที่เปิดรักษาผู้ป่วยมากว่า 30 ปี การมาในครั้งนี้เพื่อต้องการขออนุญาตปลูกและครอบครองกัญชาเพื่อใช้รักษาผู้ป่วย เบื้องต้นได้นำภาพถ่ายต้นกัญชาจำนวน 14 ต้น ซึ่งเป็นการปลูกแบบรากลอย มายื่นให้เจ้าหน้าที่ดูด้วย ทั้งนี้ ที่ผ่านมามารดาของตนมีการใช้กัญชาเป็นส่วนผสมในการรักษา ทั้งกลุ่มผู้ป่วยพาร์กินสัน โรคมะเร็งระยะท้ายๆ และเด็กที่มีอาการชัก เป็นต้น โดยใช้หลายวิธีในการสกัด ทั้งการสกัดร่วมกับน้ำมันมะพร้าว ฯลฯ เพราะแต่ละโรคใช้ปริมาณกัญชาไม่เท่ากัน อย่างไรก็ตาม การให้มาแจ้งโดยไม่ต้องรับโทษ ถือเป็นเรื่องที่ดีเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ป่วยได้เข้าถึงการรักษา
เมื่อถามถึงการจัดอบรมแพทย์แผนไทย แผนไทยประยุกต์ และหมอพื้นบ้าน เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ใช้กัญชารักษาโรค นายธนาธิป กล่าวว่า การจัดอบรมถือเป็นเรื่องที่ดีและไม่ยุ่งยาก เพราะที่ผ่านมาผู้ดำเนินการก็จะรู้ว่าต้องใช้กัญชาอย่างไรอยู่แล้ว และถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้ไม่ต้องออกไปทำการวิจัย นอกจากนี้ อยากให้มองว่าการให้ครอบครองกัญชานั้น จะได้ประโยชน์กับผู้ป่วยจริงๆ ส่วนกลุ่มที่จะนำไปใช้เรื่องการเสพเชื่อว่ามีน้อยกว่ากลุ่มผู้ป่วยมาก จึงอยากให้ยึดประโยชน์ผู้ป่วยเป็นหลัก ส่วนความต้องการกัญชาเชื่อว่า ขณะนี้มีสูงมาก