xs
xsm
sm
md
lg

แพทย์ชี้ฝุ่น PM 2.5 แฝงในอากาศมา 20 ปี “อภัยภูเบศร” ชูสมุนไพรสู้มลพิษในงานมหกรรมฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แพทย์ระบุ PM 2.5 แฝงในอากาศมา 20 ปี เผยผลวิจัยสตาร์ทเครื่องยนต์ดีเซลทิ้งไว้ 30 นาที ค่ามลพิษน้อยกว่าจุดบุหรี่ต่อเนื่อง 3 มวน ชี้คนไทยสูบบุหรี่วันละ 100 ล้านมวน สตรีมีครรภ์ได้รับมากถึงขั้นแท้งลูก ด้าน “อภัยภูเบศร” แนะกินใช้สมุนไพรสู้ฝุ่น ทั้งหญ้าดอกขาว ขมิ้นชัน มะขามป้อม

ในงานเสวนาวิชาการ “สมุนไพร ทางออกประเทศไทย คลี่คลายมลพิษ” จัดโดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมกับ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา รศ.นพ.สุทัศน์ รุ่งเรืองหิรัญญา อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวว่า ฝุ่นจิ๋ว PM2.5 มีมานานแล้วเพียงแต่มาส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรงทำให้มีการพูดถึงอย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตาม แม้ในขณะนี้ปริมาณฝุ่นจะลดลงแต่ก็ไม่อาจวางใจได้ ตราบใดที่ยังไม่สามารถควบคุมปริมาณการใช้เครื่องยนต์ ทั้งจากโรงงานอุตสาหกรรม ยานพาหนะ ตลอดจนถึงจำนวนผู้สูบบุหรี่ 10.9 ล้านคน

ทั้งนี้ มีผลวิจัยที่น่าตกใจของประเทศอิตาลีที่ระบุว่า มีการสตาร์ทรถเครื่องยนต์ดีเซลทิ้งไว้ 30 นาที ปริมาณฝุ่นพิษที่มาจากท่อไอเสีย เขม่ารถยนต์น้อยกว่าปริมาณควันที่มาจากการจุดบุหรี่ต่อเนื่องกัน 3 มวน ปัจจุบันคนไทยสูบบุหรี่เฉลี่ยวันละ 10 มวนต่อคนต่อวัน นั่นแสดงว่ามีจำนวนผู้สูบบุหรี่ต่อวันถึง 100 ล้านมวน ปริมาณมลพิษจึงกระจายไปทั่ว และหากส่งผลต่อเด็ก สตรี คนชา ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน มะเร็ง หัวใจ อัมพฤกษ์ หากได้รับมลพิษเป็นจำนวนมากอาจจะส่งผลเฉียบพลันถึงขั้นเสียชีวิต โดยเฉพาะสตรีมีครรภ์ อาจถึงขั้นแท้งบุตร หรือเกิดมาในลักษณะผิดปกติ

“เคยมีการศึกษาประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณรอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะ หากวันใดมีการเดินเครื่อง แม้จะมีการแจ้งประชาชนล่วงหน้าเพื่อใส่หน้ากากป้องกันก็ตาม แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือ มีผู้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลด้วยโรคภูมิแพ้ หืด หวัด ปอดบวม ปอดติดเชื้อ สูงกว่าช่วงที่ไม่เดินเครื่อง ถึง 3 เท่า” รศ.นพ.สุทัศน์กล่าว

รศ.นพ.สุทัศน์กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่รัฐบาลประกาศให้ปัญหาฝุ่นพิษ เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อดำเนินการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง แต่เชื่อว่าแม้จะแก้ไขอย่างเต็มกำลังก็ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี เลวร้ายที่สุดอาจยาวนานถึง 20 ปี สำหรับมาตรการระยะสั้นที่อยากฝากไว้เป็นสูตร 4 ข้อคือ 1. รู้ไว คือ ตรวจเช็คปริมาณฝุ่นพิษจากแอพลิเคชันที่มีหลากหลายโดยตลอด เพื่อเตรียมรับมือหากค่าฝุ่นเกิน 100 2. ไม่เผา คือ ไม่เผาไร่ หญ้า ขยะ ตลอดจนถึงสูบบุหรี่ในที่ชุมชน ซึ่งจะก่อให้เกิดมลภาวะต่อส่วนรวม 3. เอาหน้า หมายถึงใส่หน้ากากป้องกันมลพิษ ในวันที่มีปริมาณสูงเกินปกติ และ 4. รักษาสุขภาพ ออกกำลังกายในบ้านแทนกลางแจ้ง รับประทานอาหารถูกสุขลักษณะและตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ

ภญ.อาสาฬา เชาวน์เจริญ หัวหน้าฝ่ายข้อมูลศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ในส่วนของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ขอแนะนำสมุนไพรเพื่อช่วยดูแลปอด ในตัวแรกคือ หญ้าดอกขาว เป็นยาล้างปอด ที่ใช้ต่อเนื่องกันมายาวนาน มีงานวิจัยระบุว่าสามารถลดการแพร่กระจายของมะเร็งปอด สอดคล้องกับหมอยาพื้นบ้านที่ใช้ล้างมลพิษที่ค้างในปอด สามารถชงดื่มครั้งละไม่เกิน 2 กรัม 3 เวลา ตัวที่ 2 ที่แนะนำคือ ขมิ้นชัน ช่วยเพิ่มสมรรถภาพให้กับปอด และระบบทางเดินหายใจ โดยรับประทานครั้งละ 3 เม็ด 3 เวลา และควรรับประทานต่อเนื่องไม่เกิน 3 เดือน และให้หยุดพัก 1 เดือน ก่อนที่จะมาใช้ใหม่อีกครั้ง ตัวที่ 3 รางจืด ที่ใช้ล้างสารพิษ ไม่ควรรับประทานต่อเนื่องเกิน 5 วันในหนึ่งเดือน ตัวสุดท้ายคือมะขามป้อมสามารถรับประทานทั้งรักษาอาการไอและเพื่อดูแลสุขภาพ มะขามป้อมจะเป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัยสูง

ภญ.ดร.อัญชลี จูฑะพุทธิ ผู้อำนวยการกองวิชาการและแผนงาน กรมการแพทย์ไทยฯ กล่าวว่า ในส่วนของกรมการแพทย์นแผนไทยฯ ก็มีทุนสนับสนุนการวิจัยสมุนไพรอีกเป็นจำนวนมาก จึงอยากให้ผู้สนใจสามารถเขียนโครงการเข้ามาขอได้ เราพร้อมให้การสนับสนุน เพื่อให้สมุนไพรไทย มีงานวิจัยรองรับ สามารถอ้างอิงได้ในอนาคต

สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาข้อมูลสมุนไพรต้านมลพิษเพิ่มเติม สามารถร่วมเรียนรู้ได้ที่ งานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 16 ในวันที่ 6-10 มีนาคม 2562 ณ อิมแพค เมืองทองธานี ฮอลล์ 10-12 หรือสอบถามเพิ่มเติม ศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร 0-3721-1289 ในวันเวลาราชการ หรือ เฟสบุ๊คสมุนไพรอภัยภูเบศร



กำลังโหลดความคิดเห็น