“ประจิน” มอบกมธ.วิสามัญฯแก้ร่างพ.ร.บ.การอุดมศึกษา ให้โครงสร้าง มีสกอ.-รวมสำนักงานปลัด วท. ตัดทิ้ง “กรมอุดมศึกษา” ตามที่เครือข่ายอุดมฯขอให้ทบทวน “สมคิด” คาดแก้ไขใหม่ไม่ทัน สนช.26 ก.พ.นี้ต้องไปเสนอได้ต้นมี.ค.
วันนี้ (21 ก.พ.) นายตวง อันทะไชย รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เปิดเผยว่า ในการประชุม กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฯ ที่มีพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้หารือถึงข้อห่วงใยของกลุ่มเครือข่ายอุดมศึกษา 4 กลุ่ม คือ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ทปอ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ทปอ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย (สสอท.) ขอให้ทบทวนโครงสร้างกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ที่มีการเพิ่มกรมการอุดมศึกษา ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ปรับปรุงโครงสร้างให้ตัดกรมการอุดมศึกษา คงไว้แค่ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ซึ่ง กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฯ จะต้องไปปรับปรุงรายละเอียดให้สอดคล้องกับแนวทางนี้ ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุม สนช.วาระ 2 และ วาระ 3 ต่อไป
ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) สมาชิก สนช. กล่าวว่า สนช.ได้มีการหารือ และหยิบยกข้อทักท้วงของทปอ. มรภ.และมทร. ที่ไม่อยากให้สกอ. เป็นกรมมาทบทวน และความเห็นส่วนใหญ่ตรงกันว่า ควรนำสกอ.ไปรวมกับสำนักงานปลัด วท. ซึ่งเดิมโครงสร้างนี้ได้รับความเห็นชอบจากทั้งอธิการบดี อดีตอธิการบดีที่เป็น สนช. ปลัด วท. รมช.ศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่บังเอิญว่า การประชุม กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฯ วันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา กลุ่มที่เห็นด้วยบางคน ไม่ได้เข้าร่วมประชุม รวมถึงตนที่เดินทางไปต่างประเทศ ดังนั้น ร่างกฎหมายที่รวมสกอ.ไว้กับสำนักงานปลัดจึงตกไป และให้มีสถานเป็นกรมแทน ซึ่งส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะหากให้ สกอ. เป็น กรม จะทำให้มีสถานะเล็กลง สายป่านการทำงานยาวขึ้น ซึ่งไม่ใช่เป้าหมาย เพราะเดิมเราเสนอตั้งเป็นกระทรวงการอุดมศึกษาฯ เพื่อให้มีการบริหารงานที่เป็นอิสระ และคล่องตัว
“พล.อ.อ.ประจิน ได้ขอให้กมธ.ไปปรับรายละเอียดให้สอดคล้องกับมติดังกล่าว ซึ่งแน่นอนว่า ไม่สามารถบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมของสนช. ได้ทันวันที่ 26-27 ก.พ. นี้ แต่สนช.ได้ขยายเวลาพิจารณากฎหมายต่างๆ ไปจนถึงวันที่ 15 มี.ค. เพราะฉะนั้นจึงคิดว่ามีเวลาเพียงพอ โดยคาดว่าจะเสนอให้สนช.พิจารณาในวาระ 2และวาระ 3 ได้ภายในต้นเดือนมี.ค.นี้”ศ.ดร.สมคิด กล่าว