“ธีระเกียรติ” ทำหนังสือถึงสำนักงบประมาณ ของบกลาง รายการสำรองจ่าย 2.3 พันล้าน บ.ใช้หนี้ให้องค์การค้าของ สกสค.ตามคำพิพากษา พร้อมเร่งเคลียร์หนี้คืนเจ้าหนี้ทุกราย แต่จัดลำดับเร่งด่วนห้วงไม่มีเอกชนร่วมอีบิ้งทำจัดพิมพ์ล่าช้า เร่งหาทางออก
วันนี้ (19 ก.พ.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนหารือปัญหาหนี้สินขององค์การค้า ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ร่วมกับ พล.อโกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารมว.ศึกษาธิการ และ นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการ ศธ.ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. เนื่องจากในวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ.) องค์การค้าของ สกสค.จะเปิดประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-บิดดิ้ง เพื่อหาโรงพิมพ์มาจัดพิมพ์หนังสือเรียน ที่ขณะนี้เกิดข้อกังวลว่า อาจจะไม่มีโรงพิมพ์เอกชนเข้าร่วมประกวดราคา และอาจทำให้การจัดพิมพ์หนังสือเรียนล่าช้า ถ้าเกิดปัญหาจริงจะทำอย่างไร ต้องหาทางแก้ปัญหาล่วงหน้า เช่น การยืนยันกับเจ้าหนี้ว่า องค์การค้าฯ จะชำระหนี้จริง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนทำหนังสือถึงสำนักงานงบประมาณ เพื่อขอเบิกงบประมาณกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปีงบประมาณ 2562 จำนวน 2,390 ล้าน มาเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้กับองค์การค้าฯ คาดว่า จะได้ภายในเร็วๆ นี้ และปรึกษาว่าหนี้ส่วนใดเร่งด่วน สามารถเจียดจ่ายเงินเพื่อชำระหนี้ได้ก็ทำ ดังนั้น ขอให้เจ้าหนี้ทุกรายมั่นใจ และสบายใจได้ เพราะองค์การค้าฯ เป็นองค์กรของรัฐอย่างไรก็ต้องชำระหนี้แน่นอน
“หนี้ขององค์การค้าฯ ทั้งหมดกำลังขอเงินจากรัฐอยู่ เพียงแต่ว่าต่อไปจะไม่กู้เงินจากสถาบันการเงินจากข้างนอกแล้ว เพราะการกู้เงินจากข้างนอกมาถือเป็นการสร้างหนี้สาธารณะ และเป็นหนี้รัฐอยู่ดี ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ดำเนินการตามกฎหมายส่วนหนี้อย่างอื่น เช่น หนี้การค้า ที่องค์การค้าฯ ต้องไปแก้ปัญหาก่อน ถ้าสุดท้ายไม่ไหวต้องชี้แจงเหตุผลให้กับที่ประชุม สกสค. และหารือกันว่าสามารถช่วยเหลือได้อย่างไร และช่วยเสร็จจะฟื้นตัวอย่างไร อยากให้มั่นใจ ทุกอย่างต้องตรงไปตรงมา หนี้ทั้งหมดต้องไม่เลือกปฏิบัติ ว่าฉันจ่ายคนนี้ ไม่จ่ายให้คนนี้ เหมือนแต่ก่อน ผมไม่ต้องการให้เลือกปฏิบัติ เพราะมีลำดับของการความสำคัญ อันดับของหนี้อยู่ว่าหนี้ไหนควรชำระก่อน เอารัฐเข้ามาช่วยแล้วน่าจะไปต่อได้ ถ้าได้เงินส่วนนี้จะหายใจหายคอคล่องขึ้น” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ นายอรรถพล ปรึกษาตนว่าหากมีการสรรหาเลขาธิการ สกสค. ขึ้นสามารถเข้าสมัครได้หรือไม่ ซึ่งตนได้ให้คำตอบว่าทุกคนมีสิทธิสมัคร และขณะนี้ตนอยู่ระหว่างวางหลักเกณฑ์การสรรหา เลขาธิการ สกสค. ผู้อำนวยการองค์การค้าฯ และเลขาธิการคุรุสภาด้วย ที่ต้องเป็นธรรม เป็นไปตามหลักสากล ต้องตรงไปตรงมาที่สุด และต้องไม่ให้เกิดการร้องเรียนขึ้นมาอีกโดยศึกษาจากบทเรียนจากครั้งที่ผ่านมา แต่ที่แน่ๆต้องมีบุคคลภายนอกเข้ามาด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่ออยู่เช่นกัน คาดว่า ไม่เกิน 1 เดือน เกณฑ์การสรรหาจะแล้วเสร็จ และควรจะสรรหาให้ทันภายในรัฐบาลนี้