บอร์ด กพฐ. ไฟเขียว แก้ประกาศรับนักเรียนปี 62 ยอมหั่นกลุ่มเด็กเงื่อนไขพิเศษเหลือ 4 ประเภทจากเดิม 7 ประเภท แก้คำนิยามเด็กพื้นที่บริการใหม่ ตรวจสอบคุณสมบัติเข้ม พ่อแม่ต้องเซ็นยืนยันตัวตนหากตรวจพบข้อมูลเท็จต้องยอมให้เด็กออกจากร.ร.โดยไม่ฟ้องร้อง พร้อมให้ ร.ร. ประกาศชื่อเด็กทั้งหมดเรียงลำดับคะแนน และให้รับ ม.3 ร.ร. เดิมขึ้น ม.4 ทั้งหมด พร้อมขยับวันรับสมัคร ม.1, ม.4 เป็นวันที่ 22-27 มี.ค. งดรับสมัคร 24 มี.ค. หลีกทางเลือกตั้ง
วันนี้ (8 ก.พ.) รศ.ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุม กพฐ. ว่า ที่ประชุมมีมติแก้ไขประกาศสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เรื่อง นโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน สังกัด สพฐ. ปีการศึกษา 2562 ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ มาตรการป้องกันการทุจริตในการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทน เพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษา สังกัด สพฐ.ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอ โดยได้มีการปรับปรุงประกาศ สพฐ. สำคัญๆ ดังนี้ มีมติปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับนักเรียน กรณีนักเรียนเงื่อนไข ซึ่งเดิมกำหนดไว้ 7 ประเภท ให้ลดเหลือ 4 ประเภท ได้แก่ 1. นักเรียนที่อยู่ในความอนุเคราะห์ของผู้บริจาคที่ดินเพื่อจัดตั้งโรงเรียน เนื่องจากเป็นข้อผูกพันเดิมของโรงเรียน 2. นักเรียนที่เป็นผู้ยากไร้และด้อยโอกาส 3. นักเรียนที่เป็นบุตรผู้เสียสละเพื่อชาติ หรือ ผู้ประสบภัยพิบัติ ที่ต้องการได้รับการสงเคราะห์ดูแลเป็นพิเศษ และ 4. นักเรียนที่เป็นบุตรราชการครู และบุคลากรของโรงเรียน ส่วนที่เหลืออีก 3 ประเภทให้ตัดออก ได้แก่ 1. นักเรียนที่ทำคะแนนสอบคัดเลือกเท่ากันในลำดับสุดท้าย 2. รับนักเรียนโควตาตามข้อตกลงของโรงเรียนคู่สหกิจ หรือคู่พัฒนา หรือโรงเรียนเครือข่าย และ 3. นักเรียนที่อยู่ในอุปการะของผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ
ประธาน กพฐ. กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมมีมติ แก้คำนิยาม คุณสมบัติ และหลักเกณฑ์การเป็นนักเรียนในเขตพื้นที่บริการของโรงเรียนให้มีความชัดเจนและเข้มงวดขึ้น โดยนักเรียนในเขตพื้นที่บริการ หมายถึง นักเรียนที่มีชื่อในทะเบียนบ้านที่อยู่ในเขตพื้นที่บริการของโรงเรียนอย่างน้อย 2 ปี นับถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2562 และต้องอาศัยอยู่จริงกับบิดามารดา หรือผู้ปกครองที่เป็นเจ้าบ้าน โดยให้เจ้าบ้าน หรือ เจ้าของบ้าน รับรองการอาศัยอยู่จริง เพื่อให้ได้นักเรียนที่เป็นผู้มีภูมิลำเนาและอาศัยอยู่ในพื้นที่จริง มิใช่เพียงแต่ชื่อปรากฏในทะเบียนบ้านแต่มิได้อาศัยในทะเบียนบ้านดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้ปกครอง หมายถึง บิดามารดา หรือ ผู้ปกครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ รวมถึงบุคคลที่เด็กอยู่ด้วยเป็นประจำ โดยเด็กต้องอาศัยอยู่ที่บ้านนั้นจริงๆ ซึ่งในการรับสมัครนักเรียน จะมีใบสมัครของผู้ปกครองให้รับรองตนเองว่า “เด็กพำนักอยู่ในบ้านนั้นจริง หากมีการตรวจสอบพบภายหลังว่าไม่ได้พักอาศัยอยู่จริง ยินดีรับโทษให้เด็กออกจากโรงเรียนนั้นได้โดยไม่ฟ้องร้อง” นอกจากนี้ ยังมีความผิดทางกฎหมายแพ่งและอาญาฐานให้ข้อมูลเท็จ
“การรับนักเรียนชั้น ม.1 ในเขตพื้นที่บริการ 60% และรับนักเรียนทั่วไปด้วยวิธีการสอบคัดเลือก 40% ซึ่งในการประกาศรายชื่อ ให้สถานศึกษาประกาศรายชื่อตามลำดับคะแนนที่เด็กทำได้ทุกคน ที่มาสมัครเข้าสอบคัดเลือก แต่ไม่ต้องประกาศผลคะแนน เนื่องจากการประกาศผลคะแนนจะเป็นการละเมิดสิทธิ์ ซึ่งถ้าผู้ปกครองอยากรู้คะแนนของเด็กให้ไปขอดูที่สถานศึกษา ทั้งนี้ การประกาศรายชื่อโดยเรียงลำดับคะแนน จะทำให้ถ้ามีเด็กสละสิทธิ์เด็กในลำดับถัดไปก็ได้เลื่อนมาแทน ไม่สามารถนำเด็กที่ได้คะแนนน้อย หรือไม่ได้มาสมัครสอบเข้ามาสวมสิทธิแทนได้ ส่วนการรับนักเรียนชั้น ม.3 เข้าเรียนต่อชั้น ม.4 ในโรงเรียนเดิม ให้สถานศึกษารับเด็ก ม.3 ทุกคนที่ประสงค์จะเรียนในโรงเรียนเดิม หากมีที่เหลือสามารถเปิดรับสมัครสอบคัดเลือกเด็กทั่วไปได้ จากหลักเกณฑ์เดิมกำหนดให้โรงเรียนรับเด็กทั่วไป 20% ของแผนการรับนักเรียนชั้น ม.4 ซึ่งจะทำให้นักเรียน ม.3 ส่วนหนึ่งต้องหลุดออกจากโรงเรียนเดิม สำหรับการระดมทรัพยากรนั้นทางโรงเรียนสามารถทำได้หลังจากสิ้นสุดการรับนักเรียนเข้าเรียนเรียบร้อยแล้ว” รศ.ดร.เอกชัย กล่าว
รศ.ดร.เอกชัย กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ได้เห็นชอบปรับปฏิทินการรับสมัครรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา (ม.) ปีที่ 1 และ ม.4 ปีการศึกษา 2562 ซึ่งเดิมกำหนดรับสมัครระหว่างวันที่ 23-27 มีนาคม แต่เนื่องจากคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ได้กำหนดให้วันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ดังนั้น จึงเลื่อนวันรับสมัครเป็นวันที่ 22-27 มีนาคม โดยให้งดการรับสมัครในวันที่ 24 มีนาคม เพื่อให้ผู้ปกครองไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะฉะนั้น จึงมีระยะเวลาการรับสมัครเท่าเดิม คือ 5 วัน ทั้งนี้ สพฐ. จะประกาศหลักเกณฑ์การรับนักเรียนใหม่ให้สถานศึกษาถือปฏิบัติได้ในสัปดาห์หน้า