สบส. เผย ผลตรวจสอบคลินิกแพทย์แผนไทย “บิ๊กแจ๊ด” พบทำถูกต้องตามกฎหมายสถานพยาบาล ส่วนประเด็นใช้เข็มเจาะระบายของเหลวจากตัวผู้ป่วย ต้องส่งเรื่องแพทยสภาและสภาการแพทย์แผนไทยตรวจสอบ ถูกต้องตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่
วันนี้ (7 ก.พ.) นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงจากกรณีเจ้าหน้าที่ สบส. ลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรฐานการรักษาแพทย์แผนไทยของ “มูลนิธิมงคล-จงกล ธูปกระจ่าง คลินิกการแพทย์แผนไทย” ซึ่งมี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เป็นประธานมูลนิธิฯ เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า สบส. และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ปทุมธานี ได้รับแจ้งให้ตรวจสอบมาตรฐานการรักษาพยาบาลของ “มูลนิธิมงคล-จงกล ธูปกระจ่าง คลินิกการแพทย์แผนไทย” ซึ่งผู้แจ้งให้ข้อมูลว่า มีการใช้เข็มเจาะระบายของเหลวออกจากร่างกายของผู้ป่วย จึงขอให้ตรวจสอบว่า การให้บริการในลักษณะดังกล่าวถูกต้องตามมาตรฐานการแพทย์แผนไทยหรือไม่ โดยมีการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา
นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้ สบส. ได้รับรายงานผลการตรวจสอบสถานพยาบาลดังกล่าวจาก สสจ.ปทุมธานี เรียบร้อยแล้ว ไม่พบว่า สถานพยาบาลดังกล่าวมีการกระทำผิดกฎหมายสถานพยาบาลแต่อย่างใด มีการขออนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลอย่างถูกต้องกับ สสจ.ปทุมธานี มีแพทย์แผนไทยผู้ดำเนินการดูแลการให้บริการอย่างใกล้ชิด สถานที่มีความสะอาด ปลอดภัย ส่วนยาและเวชภัณฑ์ก็เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด แต่ประเด็นการรักษาพยาบาลด้วยวิธีการใช้เข็มเจาะระบายของเหลวออกจากบริเวณร่างกายของผู้ป่วยนั้น สบส.จะนำข้อมูลที่ได้ส่งมอบให้แพทยสภาและสภาการแพทย์แผนไทยร่วมตรวจสอบอีกครั้ง ว่า การดำเนินการในลักษณะดังกล่าว เป็นไปตามมาตรฐานที่วิชาชีพกำหนดหรือไม่อย่างไร
ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า เพื่อคุ้มครองประชาชน ให้ได้รับบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัย ทุกๆ คนสามารถร่วมเป็นเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคในด้านระบบบริการสุขภาพได้ หากพบเบาะแสการกระทำผิดมาตรฐานของสถานพยาบาลเอกชน ไม่ว่าจะเป็น ด้านสถานที่ แพทย์ หรือบริการ อย่านิ่งดูดาย หากอยู่ในเขตกรุงเทพฯ สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน กรม สบส. หมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7000 ต่อ 18618 หรือทางเฟซบุ๊ก : ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สบส. กระทรวงสาธารณสุข ในวันและเวลาราชการ แต่หากอยู่ในส่วนภูมิภาคสามารถแจ้งได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่