ผู้บริโภคเตรียมร่วมประชุมนัดแรก แนวทางกำกับค่ารักษาพยาบาล เสนอใช้เรตสิทธิฉุกเฉินวิกฤตรักษาฟรี 72 ชม. เป็นราคากลาง ด้าน รพ.เอกชน ต้องแสดงต้นทุนแล้วบวกเพิ่มตามเหมาะสม ชี้ คกก. ต้องเป็นหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียนด้วย ย้ำ คนซื้อประกันสุขภาพไม่ควรจ่ายเพิ่ม
วันนี้ (30 ม.ค.) น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการพิจารณากำหนดมาตรฐานยาและเวชภัณฑ์ บริการรักษาพยาบาล บริการทางการแพทย์ และบริการอื่นๆ ของสถานพยาบาล ในวันที่ 31 ม.ค. นี้ ว่า ในส่วนของผู้บริโภค ได้เตรียมข้อมูล ข้อเสนอ แนวทางในการกำกับค่ารักษาพยาบาลเอาไว้ โดยหลักเรามองว่า กระทรวงพาณิชย์ควรพิจารณาบทบาทของคณะกรรมการชุดนี้ให้เป็นหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียนเรื่องค่ารักษาพยาบาลจากประชาชนด้วย หรือไม่ก็พิจารณาว่า จะรับรองเรื่องร้องเรียนค่ารักษาพยาบาลแพงจากประชาชนได้อย่างไร เพราะถ้ายกตัวอย่างเรื่องร้องเรียนที่เข้ามายังมูลนิธิฯ ล่าสุด คือ ผู้ป่วยผ่าตัดสมองที่มีค่ารักษาสูงถึง 8 แสนบาท เมื่อมีการร้องเรียนคณะกรรมการฯ ก็ต้องพิจารณาว่า อัตราค่ารักษาดังกล่าวสมเหตุผล เป็นธรรม หรือแพงเกินไปอย่างไร ตรงนี้อยากให้เกิดขึ้นในระยะอันสั้น
น.ส.สารี กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่บอกว่า จะมีการกำกับค่ารักษาจะกำกับได้อย่างไร หากไม่รู้ว่าราคากลางเป็นอย่างไร จะเอาอะไรไปเปรียบเทียบ ในส่วนนี้ก็จะมีการเสนอให้ใช้อัตราค่ารักษาพยาบาลในระบบเจ็บป่วยฉุกเฉิน (UCEP) กว่า 2-3 พันรายการ ที่ภาคเอกชนยอมรับได้ คือ แม้ไม่ได้กำไรมาก แต่ก็ไม่ขาดทุน ให้เอาตรงนี้มาเป็นตัวตั้งในการพิจารณาขยายขอบเขตไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในกรณีโรคไม่ฉุกเฉินจะมีแนวทางกำกับค่ารักษาพยาบาลอย่างไร ให้เกิดความเป็นธรรม น.ส.สารี กล่าวว่า ที่จริงเรื่องค่ารักษาพยาบาลมีกำหนดอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ รพ. ทั้งหมดจะยอมรับ ดังนั้น ทาง รพ.เอกชน ต้องมีการเปิดเผยต้นทุนค่ารักษา แล้วบวกเพิ่มไป ที่สำคัญ คือ ในกรณีที่ผู้ป่วยมีการซื้อประกันสุขภาพร่วมด้วย เมื่อเข้ารักษาใน รพ.เอกชน ก็ไม่ควรต้องจ่ายเงินเพิ่ม เป็นต้น อย่างไรก็ตาม รายละเอียดอื่น คงจะได้มีการหารือเพิ่มเติมในที่ประชุมวันที่ 31 ม.ค.