กทม.เตรียมประกาศเขตมลพิษทางอากาศ จากปัญหาฝุ่น PM 2.5 ครอบคลุมพื้นที่เกินค่ามาตรฐานในกทม.-ปริมณฑล 26 เขต แก้วิกฤตฝุ่นพิษทั่วเมืองกรุง ออกกฎเหล็กคุมเข้มรถดีเซลควันดำเกินมาตรฐาน-เผาไฟ-ก่อสร้าง ฝ่าฝืนเจอโทษทั้งปรับ-ติดคุก เริ่มใช้ทันทีหลังวันประกาศ ส่วน จ.สมุทรสาคร ไฟเขียวผู้ว่าฯ ใช้อำนาจประกาศเขตควบคุมเหตุรำคาญตามกฎหมายการสาธารณสุข ปี 2561 เพื่อยุติแหล่งกำเนิดมลพิษ
เมื่อวันที่ 29 ม.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า กรุงเทพมหานคร โดย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะประกาศ กำหนดพื้นที่ควบคุม 26 เขตใน กทม. ให้เป็นพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ โดยสืบเนื่องจากปัญหาสถานการณ์มลพิษทางอากาศจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่ก่อตัวบริเวณกว้างจนก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 28/1 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดย พ.ร.บ.การสาธารณสุข ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2560 ประกอบข้อ 4แห่งประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประกาศพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ พ.ศ. 2561เจ้าพนักงานท้องถิ่นออกประกาศไว้ โดยให้พื้นที่ 26เขต ได้แก่ เขตราชเทวี สัมพันธวงศ์ พญาไท วังทองหลาง ปทุมวัน บางรัก บางคอแหลม ยานนาวา จตุจักร บางกะปิ ลาดกระบัง ธนบุรี คลองสาน บางกอกน้อย ภาษีเจริญ บางเขน บางพลัด บางขุนเทียน พระนคร สาทร คลองเตย บางซื่อ หลักสี่ บึงกุ่ม บางนา และดินแดง เป็นพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้กำหนดแหล่งที่ก่อเหตุรำคาญในพื้นที่ คือ รถยนต์ดีเซลที่มีค่าควันดำเกินมาตรฐาน การเผาในที่โล่ง ได้แก่ การเผาหญ้า เผาตอซังข้าว และเผาขยะ และกิจกรรมการก่อสร้าง โดยห้ามไม่ให้นำรถเครื่องยนต์ดีเซลที่มีค่าควันดำเกินมาตรฐานมาวิ่งใช้งานบนท้องถนน ห้ามเผาในที่โล่งทุกประเภทในพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ ต้องปฏิบัติตามมาตรการลดฝุ่นละอองจากกิจกรรมการก่อสร้างอย่างเคร่งครัด โดยจะต้องรายงานผลการดำเนินงานตามประกาศพื้นที่ควบคุมให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นทราบ ภายใน 3 วัน และหากมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3เดือนหรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ประกาศไว้ในที่เปิดเผยที่สำนักงานเขต และบริเวณที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญและเมื่อได้แจ้งให้ผู้ก่อเหตุรำคาญรับทราบแล้ว