สช. เผย 2 โรงเรียนเอกชนเพลินพัฒนา-รุ่งอรุณ ปิดเรียน 3 วันจากปัญหาฝุ่นละออง ขณะที่โรงเรียนสาธิต จุฬาฯ ระบุปิดเรียนหลังพบเด็กป่วยไข้หวัด ส่วนปัญหาฝุ่นอยู่ระหว่างการประเมิน โดยติดตั้งเครื่องวัดปริมาณฝุ่น 4 เครื่อง หากไม่กระทบก็ให้ทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ ส่วนโรงเรียน สพฐ. ยังไม่มีการสั่งปิด
วันนี้ (23 ม.ค.) นายชลำ อรรถธรรม เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินมาตรฐานที่กำลังเผชิญเกือบทั่วพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ทำให้สถานศึกษาหลายแห่งเริ่มออกประกาศปิดการเรียนการสอน เพราะกังวลต่อปัญหาฝุ่นละอองดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพนักเรียนนั้น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้รับรายงานว่า มีโรงเรียนเอกชน 2 แห่ง คือ 1. โรงเรียนเพลินพัฒนา เขตทวีวัฒนา 2.โรงเรียนรุ่งอรุณ เขตบางขุนเทียน ที่ประกาศปิดการศึกษาชั่วคราว ระหว่างวันที่ 23-25 มกราคม 2562 เนื่องจากผลกระทบสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5
ด้าน นายสนิท แย้มเกษร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ยังไม่มีรายงานว่ามีโรงเรียนในสังกัด สพฐ. โรงเรียนใดแจ้งเรื่องการปิดการเรียนการสอน จากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก แต่ก่อนหน้านี้ สพฐ. มีหนังสือแจ้งไปยังสถานศึกษาทุกแห่งให้ติดตามข่าวสาร สถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิด ดูว่าที่ตั้งของโรงเรียนเป็นจุดที่เกิดวิกฤตหรือไม่ และปฏิบัติตามแนวทางประกาศจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หากผู้อำนวยการโรงเรียนพิจารณาแล้วเห็นว่าสถานการณ์ฝุ่นเริ่มมีความรุนแรง หรือส่งผลกระทบต่อสุขภาพของนักเรียนและครู ก็มีอำนาจในการสั่งงดกิจกรรมกลางแจ้งที่เห็นว่าไม่เหมาะสม หรือสั่งปิดการเรียนการสอนชั่วคราวได้ไม่เกิน 7 วัน
ขณะที่ นายทินกร บัวพูล ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ฝ่ายประถม กล่าวว่า โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังมีการประกาศหยุดเรียนเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่ 23-25 ม.ค. นี้ เนื่องจากพบนักเรียนในระดับชั้นอนุบาล1-ป.6 เป็นไข้หวัดใหญ่ทั้ง 4 สายพันธุ์จำนวนมาก โดยวันจันทร์ตรวจพบนักเรียนเป็นไข้หวัด 88 คน และวันอังคารกลับพบพุ่งสูงขึ้นเกือบเท่าตัวคือ 135 คน หรือเกือบร้อยละ 10 ของนักเรียนทั้งหมดที่มีกว่า 1,500 คน ซึ่งตนเชื่อว่าน่าจะมาจากสาเหตุเรื่องของมลพิษทางอากาศเป็นตัวกระตุ้น เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาสถานการณ์ฝุ่นในหลายพื้นที่อยู่ในระดับวิกฤต โรงเรียนจึงให้นักเรียนสวมใส่หน้ากาก และงดกิจกรรมกลางแจ้งทุกชนิด ให้เรียนและทำกิจกรรมในห้องเรียนเท่านั้น จึงทำให้การหายใจไม่ค่อยสะดวกประกอบกับอยู่ในพื้นที่จำกัด จึงทำให้มีการป่วยและแพร่กระจายของโรคได้ง่าย โดยในวันจันทร์ที่ 28 มกราคมนี้โรงเรียนจะเปิดการเรียนการสอนตามปกติและให้เจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุขมาวัดไข้และฉีดวัคซีนป้องกันให้กับเด็ก
ส่วนมาตรการในการป้องกันฝุ่นละออง PM2.5 ของโรงเรียน จะมีการนำเครื่องวัดระดับปริมาณฝุ่นละอองในอากาศมาติดตั้งที่โรงเรียน จำนวน 4 เครื่อง เพื่อรายงานค่าฝุ่นละออง เพื่อประกอบการตัดสินใจในการหยุดการเรียนการสอน หรือประเมินการทำกิจกรรมนอกห้องเรียน ซึ่งหากมีค่าของฝุ่นอยู่ในระดับน้อย ก็อาจให้นักเรียนออกมาทำกิจกรรมข้างนอกโดยสวมใส่หน้ากาก มีการแจกหน้ากากให้เด็กและผู้ปกครองจำนวน 2,600 ชิ้น ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเมืองโคเกะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้ทำโครงการโรงเรียนพี่น้องกับสาธิตจุฬา ส่งมาให้จากประเทศญี่ปุ่น รวมถึงการสอดแทรกความรู้เรื่องการดูแลตัวเองให้กับนักเรียนในชั่วโมงการเรียนการสอนและบอร์ดนิทรรศการ
ส่วนการหยุดเรียนจะไม่กระทบการเรียนการสอนอย่างแน่นอน ผู้ปกครองไม่ต้องกังวล เนื่องจากโรงเรียนได้ทำเนื้อหาทบทวนบทเรียนที่นักเรียนสามารถศึกษาด้วยตนเองได้จากที่บ้าน ขณะเดียวกันแม้ที่ผ่านมาผู้ปกครองกังวลเรื่องสถานการณ์ฝุ่น แต่ก็ไม่ได้เรียกร้องให้หยุดเรียน เนื่องจากเชื่อให้มาตรการของโรงเรียน และติดตามข่าวสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลพร้อมเฝ้าระวังไปพร้อมกันอย่างต่อเนื่อง