รพ.เอกชน พร้อมทำตามมติ ครม. หลังเคาะค่ารักษาเป็นสินค้า-บริการควบคุม ห่วงออกเกณฑ์จนด้อยคุณภาพ ไม่เกิดการพัฒนา วอนเข้าใจการทำงานมีต้นทุนสูง ขอให้ดูตามความเป็นจริง
วันนี้ (22 ม.ค.) นพ.เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ อดีตนายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ค่ายาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ เป็นสินค้าและบริการควบคุม ว่า ในฐานะของผู้ประกอบการ รพ.เอกชน เมื่อมีมติ ครม. ออกมาเช่นนี้ เราก็ต้องทำตาม จากนี้ก็อยู่ที่คณะอนุกรรมการจะพิจารณาวางหลักเกณฑ์ออกมาอย่างไร แต่เราคงไม่มีความสามารถไปชี้นำ หรือต้องร้องขออะไร ก็คงต้องทำงานต่อ แต่อย่ากระทบจนกระทั่งความมีประสิทธิภาพของ รพ.เอกชน กลายเป็นความด้อยลงไป เพียงเพราะไปแก้ปัญหาของคน 2-5% แล้วกระทบคนส่วนมาก 95% เพราะอย่างที่บอกว่า คนกว่า 95% มา รพ.เอกชน ซ้ำ แม้ไม่ได้สอบถามความพึงพอใจ แต่สถิติก็ฟ้องว่า หากไม่มีคุณภาพ ไม่คุ้มค่า เขาไม่มาซ้ำ เพราะไม่ใช่ว่าเป็นคนไม่มีทางเลือก
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า หากมีการควบคุมค่ารักษาแล้ว รพ.เอกชน จะลดคุณภาพลง เพื่อประหยัดหรือไม่ นพ.เอื้อชาติ กล่าวว่า รพ.เอกชน ไม่ได้จะลดมาตรฐานลง แต่จะทำอย่างไรในเมื่อไม่มีเงิน เพราะการรักษาล้วนมีต้นทุน ทั้งค่าอาคารสถานที่ บุคลากร เทคโนโลยี อย่างเรื่องยา เราไม่ได้เป็นคนขายยา แต่เนื่องจาก รพ. ต่างจากร้านขายยาทั่วไป เราต้องมียาทุกตัวที่แพทย์ต้องการใช้ จึงต้องมีต้นทุนการเก็บรักษา ก่อนใช้ต้องมีการตรวจวินิจฉัยโรคก่อน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นต้นทุน อนุกรรมการก็ต้องดูตามจริงด้วย ทั้งนี้ หากไม่เกิดการพัฒนาตนก็ห่วงว่า ผลสุดท้ายคนไทยเองจะลำบากเพราะไม่มี รพ. ดีๆ แล้ว ต้องบินไปรักษาที่ รพ.ต่างประเทศ เหมือนในอดีต ทั้งที่วันนี้ไทยถือว่าเป็นผู้นำ