จักษุแพทย์ เผย ฝุ่น PM2.5 อาจทำแสบตา ระคายเคือง ตาแดงได้ แต่มักเป็นสั้นๆ ไม่เกิดอันตรายร้ายแรง เว้นคนเป็นต้อลม ต้อเนื้อ ภูมิแพ้ขึ้นตา อาจเคืองตา ตาแดงมากผิดปกติ พร้อมแนะ 5 วิธีดูแลดวงตาในภาวะวิกฤตฝุ่น
วันนี้ (17 ม.ค.) รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ หัวหน้าศูนย์ตาธรรมศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “จักษุแพทย์แนะนำคนกรุง” อยู่อย่างไรให้ปลอดภัยในวิกฤตฝุ่นควัน ว่า จากภาวะวิกฤตฝุ่นควัน PM2.5 ที่คนกรุงเทพฯ และปริมณฑลต้องผจญมาหลายวันและอาจต้องผจญต่อไปอีกนาน ทำให้หลายๆ คนเริ่มมีอาการผิดปกติในระบบร่างกายหลายระบบ รวมทั้งวิตกว่าจะเป็นอันตรายกับอวัยวะต่างๆ เช่น ดวงตาทำให้แสบตา ระคายเคือง ตาแดงหรือทำให้ถึงขั้นตาบอดได้หรือไม่
ทั้งนี้ ภาวะวิกฤตฝุ่นควัน PM2.5 เป็นภาวะที่มีฝุ่นขนาดเล็กในอากาศมากกว่าปกติ โดยทั่วไปฝุ่นขนาดเล็กอาจทำให้ดวงตาเกิดอาการระคายเคือง แสบตาหรือตาแดงได้ แต่อาการผิดปกติเหล่านี้มักเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ ไม่ทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงกับดวงตา ยกเว้นในผู้ที่มีความผิดปกติกับดวงตาอยู่แล้ว เช่น ต้อลม ต้อเนื้อ หรือภูมิแพ้ขึ้นตา อาจทำให้มีอาการเคืองตา ตาแดงมากกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม หากได้ทราบถึงแนวทางการปฏิบัติที่เหมาะสมก็จะทำให้ดวงตาของเราปลอดภัยจากวิกฤตฝุ่นควันนี้ไปได้
ข้อแนะนำเกี่ยวกับการดูแลดวงตาในภาวะวิกฤตฝุ่นควันมีดังนี้ 1. ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่มีฝุ่นควันหนาแน่นเท่าที่สามารถทำได้ 2. หากมีอาการระคายเคืองตาหรือแสบตา ควรหลีกเลี่ยงการขยี้ตา ให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดหรือใช้น้ำตาเทียมหยอดตา 3. ในคนที่มีปัญหาต้อลม ต้อเนื้อ หรือภูมิแพ้บริเวณดวงตาอยู่แล้ว เมื่อต้องเข้าไปในบริเวณที่มีฝุ่นควันมากๆ ควรหาแว่นตาชนิดมีขอบด้านบนและด้านข้างมาใส่ เพราะแว่นตาทั่วไปไม่สามารถป้องกันฝุ่นควันเข้าตาจากด้านข้างได้
4. คนที่ใส่คอนแทคเลนส์ หากต้องอยู่ในที่มีฝุ่นควันเยอะควรใช้แว่นตาแทนเพราะการใส่คอนแทคเลนส์อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ดวงตาได้ 5. หากมีอาการผิดปกติทางตารุนแรง เช่น ตาแดงมาก มีขี้ตาสีเขียวหรือเหลือง หรือตามัวลงให้ไปพบจักษุแพทย์โดยเร็ว
ข้อแนะนำเหล่านี้น่าจะช่วยทำให้ดวงตาของคนกรุงเทพฯสามารถอยู่กับภาวะวิกฤตฝุ่นควันได้อย่างปลอดภัย เพราะเราอาจยังต้องเผชิญกับปัญหานี้ต่อไปอีกนานหากยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้