xs
xsm
sm
md
lg

ศธ.เร่งแก้เหลื่อมล้ำค้นหาเด็กนอกระบบกลับสู่ห้องเรียนก่อนเริ่มเทอมใหม่ปี 62

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


"สุรเชษฐ์" พอใจผลการดำเนินการลดความเหลื่อมล้ำ สั่งขยายผลดึงเด็กกลับเข้าระบบการศึกษาให้ได้มากที่สุดก่อนเปิดเทอมปี 62 ด้าน สพฐ.เตรียมผุดโครงการ 1 ตำบล 1 โรงเรียนคุณภาพ 7,257 โรง เพิ่มโอกาสเข้าถึงสถานศึกษาคุณภาพ

วันนี้ (15 ม.ค.) พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยการประชุมการรายงานผลการดำเนินงานลดความเหลื่อมล้ำของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ตามนโยบายรัฐบาล รอบ 4 ปี (ปี 2557-2561) ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการเขลางค์ เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ช่วงเวลา 4 ปี 4 เดือนเศษรัฐบาลได้มีนโยบายและโครงการจำนวนมาก หนึ่งในนโยบายสำคัญคือการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่ผ่านมา องค์กรหลักได้เดินหน้าขับเคลื่อนตามมาตรการประกันโอกาสทางการศึกษา การประกันคุณภาพการศึกษา และการประกันประสิทธิภาพการศึกษา

ทั้งนี้ ภาพรวมของการดำเนินงานพบว่าผลการดำเนินงานเป็นที่พึงพอใจ หลายเรื่องประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะการนำประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษาเข้าสู่ระบบการศึกษา ที่เริ่มต้นจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้ตนได้มอบนโยบายให้ขยายผลไปสู่ภูมิภาคอื่นๆ ให้ทั่วถึงโดยมีสำนักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เป็นเจ้าภาพหลักและตั้งเป้าว่าก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จะต้องดึงเด็กกลุ่มเสี่ยง เด็กออกกลางคันกลับเข้าสู่ระบบให้มากที่สุด นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำว่าเรื่องการสร้างการรับรู้ และความเข้าใจที่ถูกต้องสู่สาธารณชนในวงกว้างด้วย

ด้าน นายอัมพร พินะสา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษามาจาก 3 สาหตุหลัก คือ 1.สภาพภูมิประเทศที่หลายพื้นที่อยู่ห่างไกล ทุรกันดาร พื้นที่เกาะแก่ง 2.สภาพเศรษฐกิจและสังคม 3.สภาพร่างกาย จิตใจ ซึ่งที่ผ่านมา สพฐ.ได้ดำเนินการแก้ปัญหาผ่านโครงการสำคัญๆทั้งโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ สร้างโอกาสทางการศึกษาสำหรับผู้พิการ ได้ขยายการจัดการศึกษาเรียนรวมให้เด็กพิการได้เรียนกับเด็กปกติในสถานศึกษา 23,488 แห่ง ผู้พิการเรียนรวม 387,678 คน รวมถึงตั้งศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน 226 ศูนย์ ให้การคุ้มครองดูแลเด็กและช่วยเหลือเด็กที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการศึกษา เด็กตกหล่น เด็กออกกลางคันกลับเข้าระบบได้จำนวน 11,332 คน เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังนำเทคโนโลยีดิจิทัลทั้งโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีทางไกล หรือ DLTV ให้กับโรงเรียนขนาดเล็ก 10,505 โรง นำแอปพลิเคชั่น เช่น Echo English ,ติวฟรี.คอม มาใช้บูรณาการจัดการเรียนการสอนซึ่งช่วยให้เด็กเข้าถึงได้ตลอดเวลา และมีการส่งเสริมการสอนภาษาไทยให้แก่นักเรียนระดับประถมศึกษาที่ไม่ใช่ภาษาไทยเป็นหลัก ให้สามารถอ่านเขียนได้ ยังมีการร่วมมือกับภาคเอกชนจัดการศึกษาในโครงการสำคัญ อาทิ โครงการสานพลังประชารัฐ โรงเรียนร่วมพัฒนามุ่งพัฒนา เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในปีการศึกษา 2562 นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการ กพฐ.มีนโยบายจะกระจายโรงเรียนคุณภาพไปสู่ทุกตำบล ผ่านโครงการ 1 ตำบล 1 โรงเรียนคุณภาพ จำนวน 7,275 โรง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและเพื่มโอกาสเข้าถึงการศึกษา สถานศึกษาที่มีคุณภาพให้แก่ผู้ปกครองและนักเรียนมากขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น