xs
xsm
sm
md
lg

แผ่นดินไหว อ.ศรีสวัสดิ์ ทำ 2 รพ.ผนังร้าว ไม่กระทบโครงสร้าง ไม่ต้องอพยพผู้ป่วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้ตรวจ สธ. เขต 5 เผย เหตุแผ่นดินไหว “กาญจนบุรี” กระทบ รพ. 2 แห่ง มีรอยร้าวผนังเล็กน้อย ไม่กระทบโครงสร้างหลัก ย้ายผู้ป้วยไปอีกห้องแล้ว พร้อมเฝ้าระวังเพิ่มเติม หากเกิดเหตุรุนแรงพร้อมอพยพทันที เผย อุบัติเหตุทางถนนปีใหม่ จ.ประจวบฯ ตายสูงสุด แต่ยังไม่มีปัญหารถทัวร์เทกระจาด

วันนี้ (31 ธ.ค.) นพ.ปานเนตร ปางพุฒิพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เขตสุขภาพที่ 5 กล่าวถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 4.9 ใน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เมื่อคืนวันที่ 30 ธ.ค. ที่ผ่านมา ว่า ในส่วนของสาธารณสุข ได้รับรายงานว่า มีโรงพยาบาล 2 แห่งใน อ.ศรีสวัสดิ์ คือ รพ.ศุกร์ศิริศรีสวัสดิ์ และ รพ.ท่ากระดาน โดยทั้ง 2 โรงพยาบาลได้รับผลกระทบมีรอยร้าวที่ผนังเล็กน้อย แต่ไม่เสียหายกับโครงสร้างหลัก ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ได้ย้ายผู้ป่วยจากห้องหนึ่งไปอีกห้องหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่ถึงขั้นต้องอพยพผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ แต่ขณะนี้มีการเฝ้าระวังดูเหตุการณ์เพิ่มเติม และรายงานเข้าระบบสาธารณสุขฉุกเฉินแล้ว

เมื่อถามว่า ต้องเฝ้าระวังแผ่นดินไหวถึงระดับใด จึงจะอพยพผู้ป่วย นพ.ปานเนตร กล่าวว่า ถ้าต้องอพยพจะมีขั้นตอน โดยจะอพยพผู้ป่วยไปยัง รพ.พหลพลพยุหเสนา ที่อยู่ในตัวเมือง ซึ่งเรามีระบบเตรียมความพร้อมเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอยู่ แต่อยู่ในช่วงเฝ้าระวังเหตุการณ์ ซึ่งจะมีระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวของจังหวัดอยู่ และเมื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องแผ่นดินไหวแจ้งเตือนแผ่นดินไหวถึงระดับที่เป็นอันตรายต่อโครงสร้างอาคาร ก็จะอพยพผู้ป่วยไปยัง รพ.พหลพลพยุหเสนา ทันที ซึ่งขณะนี้ผู้ป่วยของทั้ง 2 โรง มีไม่มาก เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาดไม่ใหญ่ โดย รพ.ศุกร์ศิริศรีสวัสดิ์ มีจำนวน 10 เตียง มีผู้ป่วย 4-5 คน ส่วน รพ.ท่ากระดาน มี 30 เตียง อัตราการครองเตียง 50% ประมาณ 10 คน ส่วนนักท่องเที่ยว ไม่มีรายงานอุบัติเหตุจากเหตุการณ์ดังกล่าวเข้ามา

เมื่อถามถึงสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนช่วงปีใหม่ของเขตสุขภาพที่ 5 นพ.ปานเนตร กล่าวว่า เท่าที่มีการรายงานข้อมูลมา เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว พบว่า ยังไม่มีอะไรน่าผิดสังเกต แต่จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุเยอะสุด ยังคงเป็น จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีคนเสียชีวิต 4 ราย เป็นการเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้บาดเจ็บยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 14 ราย สำหรับสาเหตุที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เกิดอุบัติหตุเยอะสุด เพราะพื้นที่มีลักษณะเป็นแนวยาวลงสู่ภาคใต้ ซึ่งเป็นช่วงกึ่งกลางเส้นทางในการขึ้นและลงภาคใต้ ทำให้คนขับมักเกิดอาการอ่อนเพลียในพื้นที่นี้จากการขับรถมาระยะหนึ่งพอดี

นพ.ปานเนตร กล่าวว่า แต่ที่น่าสังเกตปีนี้ยังไม่มีเหตุการณ์รถทัวร์แหกโค้งคว่ำเทกระจาดเลย คาดว่า น่าจะมาจากการที่กรมการขนส่งทางบกเข้มงวดกับคนขับ โดยใช้หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ในการติดตามชั่วโมงขับ และการพักผ่อน และการตรวจแอลกอฮอล์ในเลือดของคนขับ อย่างไรก็ตาม ยังต้องเฝ้าระวังในคืนวันที่ 31 ธ.ค. เพราะเป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุสูงหลังการไปเคานต์ดาวน์ ก็ได้ประสานฝ่ายปกครองและตำรวจในการกวดขันเรื่องพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งเมาสุรา ขับรถเร็ว ไม่สวมหมวกกันน็อก


กำลังโหลดความคิดเห็น