สบส. ตรวจความพร้อม รพ. ดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต รองรับเทศกาลปีใหม่ 2562 ยันไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หากเข้าเกณฑ์วิกฤตสีแดง รักษาฟรี 72 ชั่วโมงแรก หากไม่เข้าเกณฑ์ก็รักษา พร้อมประสานส่งต่อ รพ. ตามสิทธิ ก่อนเคลมกับกองทุนสุขภาพ
วันนี้ (28 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น เพื่อตรวจความพร้อมการให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉิน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ หรือ ยูเซป (UCEP) ว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีวันหยุดยาว มีการเดินทางกลับบ้านหรือท่องเที่ยวจำนวนมาก หากเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต เช่น หัวใจหยุดเต้น ระบบความดันของเลือดลดลงเฉียบพลัน ระบบประสาทเกิดการอ่อนชา กล้ามเนื้ออ่อนแรงครึ่งซีก ชักกระตุกเกร็ง ระบบหายใจอุดตันหายใจไม่ออก ที่ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต สามารถเข้าใช้สิทธิยูเซปได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่งที่ใกล้ที่สุด ซึ่ง รพ.จะไม่ถามสิทธิและให้บริการทันที
ทพ.อาคม กล่าวว่า ส่วนการมาตรวจสอบ รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น พบว่า มีความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งจะเห็นว่า มีแพทย์ประจำตลอด 24 ชั่วโมง เวรละ 2 คน มีอุปกรณ์ และยาจำเป็นสำหรับช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินตามเกณฑ์มาตรฐานสถานพยาบาล นอกจากนี้ จากการให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่ประจำห้องฉุกเฉินระบุว่าเมื่อมีการรับผู้ป่วยเข้ามาแล้ว จะมีทีมแพทย์ให้การดูแลผู้ป่วยตามอาการ อีกส่วนหนึ่งก็จะมีการลงบันทึกข้อมูล รายเอียดตามโปรแกรมประเมินความฉุกเฉิน และตรวจสอบสิทธิของผู้ป่วยทุกราย โดยใช้เวลาประมาณ 5-10 นาทีเท่านั้น ซึ่งตามมาตรฐานของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.) จะใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที ทั้งนี้ กระบวนการตรวจสอบจะทำไปพร้อมกับการให้การรักษา
“เมื่อเข้าโรงพยาบาลแล้วไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยฉุกเฉินถึงแก่ชีวิตหรือไม่ ทางโรงพยาบาลก็ให้การรักษาโดยไม่ต้องสำรองจ่ายอยู่แล้ว เพราะถ้าเป็นเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตสีแดงก็เข้าตามเกณฑ์ยูเซป รักษาฟรี 72 ชั่วโมงแรก หลังพ้นวิกฤตก็ส่งต่อ รพ. ตามสิทธิ แต่หากเตียงไม่ว่าง ทางกองทุนก็จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย แต่หากยังยืนยันอยู่ รพ. เดิม ก็ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง ส่วนการเจ็บป่วยที่ไม่วิกฤต โรงพยาบาลก็ต้องดูแลและประสานไปยังโรงพยาบาลตามสิทธิของผู้ป่วย เพื่อส่งตัวไปรักษาต่อ โดยจะมีระบบตามจ่ายเงินกันเอง เว้นแต่ว่าผู้ป่วยสมัครใจจะขอรับการรักษา ก็ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง” ทพ.อาคม กล่าว
รศ.นพ.ปิยะ เนตรวิเชียร ผอ.รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น กล่าวว่า ห้องฉุกเฉินของ รพ. มีความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง และช่วงก่อนถึงเทศกาลปีใหม่ก็ได้มีการซ้อมแผนรับมืออุบัติภัยหมู่เพื่อรองรับและสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2561 เรามีผู้ป่วยฉุกเฉินเดือนละประมาณ 100 กว่าราย เข้าเกณฑ์ฉุกเฉินวิกฤตประมาณ 30% ก็ให้การรักษาทุกราย โดยระบบยูเซปจะรับผิดชอบช่วง 72 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้นกองทุนสุขภาพของผู้ป่วยก็จะรับไปดูแลต่อ
“ผมได้ให้นโยบายกับบุคลากรทุกคน ว่า เมื่อมีผู้ป่วยเข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาล อันดับแรก คือ ต้องมีการช่วยเหลือ รักษาตามมาตรฐานวิชาชีพก่อน ห้ามถามถึงสิทธิ ถามถึงการจ่ายเงิน เพราะไปเบิกกันเองตามระบบ ซึ่งเบิกได้เท่าไรก็เท่านั้น ยืนยันว่าเราไม่มีการปฏิเสธผู้ป่วยแน่นอน อย่างไรก็ตาม โครงการยูเซปเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่ที่ผ่านมายังคงมีปัญหาเรื่องของการส่งต่อ หาเตียงยาก ซึ่งบางโรงพยาบาลก็เข้าใจดี บางโรงก็อิดออดที่ระรับส่งตัวผู้ป่วย โดยเฉพาะสิทธิบัตรทองและข้าราชการจะหาเตียงเพื่อส่งต่อยาก” รศ.นพ.ปิยะ กล่าว
รศ.นพ.ปิยะ กล่าวว่า อย่างบัตรทองแม้จะส่งต่อยาก แต่ไม่มีปัญหา เพราะกองทุนบัตรทองจะดูแลค่าใช้จ่ายหลัง 72 ชั่วโมง แต่ข้าราชการต้องสำรองจ่ายไปก่อน ซึ่งผมเรียนปัญหาไปยัง นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทราบแล้ว ส่วนสิทธิประกันสังคมไม่มีปัญหา แต่ยังมีผู้ป่วยอีกกลุ่มหนึ่งที่ค่อนข้างมีปัญหา คือ กลุ่มรัฐวิสาหกิจ ซึ่งไม่เข้าตามโครงการ จนตอนนี้ก็ยังไม่สามารถเบิกจ่ายคืนได้ ส่วนตัวมองว่า ตัวเงินนั้นไม่มีปัญหา เพราะถือว่าไม่มาก เราไม่ได้เก็บจากผู้ป่วยอยู่แล้ว แต่นับเป็นปัญหาที่ระบบ เรื่องนี้กระทรวงแรงงานดูแลอยู่ ที่ผ่านมา เห็นบอกว่า กำลังทำเรื่องระเบียบหลักเกณฑ์ แต่ก็ยังไม่ออกมา
