สจล. ร่วมญี่ปุ่น เปิดตัวสถาบันโคเซ็นฯ รับ นร. จบ ม.3 เก่งวิทย์-คณิต ปั้นเป็นวิศวกรชั้นแนวหน้าของโลก นำร่องเปิดหลักสูตรแรก “วิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์” หรือระบบอัตโนมัติหุ่นยนต์ หลักสูตร 5 ปี รับจำนวน 24 คน เรียนจบประกาศนียบัตรควบอนุปริญญาวิศวกรรมศาสตร์ เปิดรับนักศึกษารุ่นแรก 24 คน
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า จากยุทธศาสตร์ไทยแลนด์พลัสวัน (Thailand Plus One) ของประเทศญี่ปุ่นที่ต้องการยกไทยเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนสำคัญ ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องเร่งสร้างวิศวกรนักปฏิบัติเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับญี่ปุ่น อันจะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศสอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวของประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จึงได้เกิดความร่วมมือระดับรัฐบาล ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการของไทย และกระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของญี่ปุ่น ให้มีการจัดตั้งสถาบันโคเซ็น-เคเอ็มไอทีแอลสถาบันเชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะด้านวิศวกรรมศาสตร์ ที่จะผลิตบุคลากรที่มีความชำนาญเฉพาะสาขา
ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า สถาบันนี้จะเป็นสาขาที่ 52 ของสถาบันและเป็นสถาบันโคเซ็นฯแห่งแรกที่จัดตั้งนอกประเทศญี่ปุ่น เพื่อทางเลือกใหม่ของนักเรียนที่มีความสามารถทางด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่สนใจอยากเรียนต่อด้านวิศวกรรมศาสตร์ ตอบโจทย์ภาคการผลิตไทยและขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรม ผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมสู่อนาคต ตอบสนองแผนการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของประเทศที่มุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมขึ้นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน
รศ.ดร.คมสัน มาลีสี คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. กล่าวว่า สถาบันโคเซ็น-เคเอ็มไอทีแอล เป็นสถาบันแรกของประเทศไทยที่ได้รับออกแบบหลักสูตรด้านวิศวกรรรมศาสตร์ที่เข้มข้น ทั้งภาควิชาการและภาคปฏิบัติกับประเทศญี่ปุ่น นำร่องทำการเรียนการสอนในสาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ (Mechatronics Engineering) หรือ การเรียนด้านระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ อันเป็นการบูรณาการศาสตร์ทางด้านวิศวกรรมในหลากหลายแขนง ความพิเศษของสถาบันโคเซ็น-เคเอ็มไอทีแอล คือ การเป็นสถาบันเชี่ยวชาญพิเศษด้านวิศวกรรมศาสตร์ เทียบเท่ามัธยมศึกษาตอนปลาย โดยตลอดหลักสูตร 5 ปี ผู้สำเร็จการศึกษาจะได้รับประกาศนียบัตรจากสถาบันโคเซ็นฯ ควบอนุปริญญาวิศวกรรมศาสตร์จาก สจล.
การเรียนการสอน ในช่วงปี 1-2 จะทำการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ และปีที่ 3-5 เป็นภาษาญี่ปุ่น ในช่วงก่อนสำเร็จการศึกษานักศึกษาจะได้เดินทางไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเนื้อหาของหลักสูตรจะยึดตามแนวทางของระบบโคเซ็น ประเทศญี่ปุ่น 100% นอกจากนี้ หลังจากสำเร็จการศึกษาสามารถเลือกศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีอีก 2 ปีในสถาบันชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ
หลักสูตรนี้เป็นการฝึกให้นักศึกษาเป็นนักวิจัยที่มีความสามารถ ตรงตามความต้องการบริษัทอุตสาหกรรมชั้นนำ ในญี่ปุ่นเองนักศึกษาที่จบจากหลักสูตรโคเซ็นได้รับการยอมรับว่ามีความรู้ความสามารถที่โดดเด่นทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ อันเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน โดยมีพาร์ทเนอร์จากภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่จะมาร่วมเป็นเทรนเนอร์ให้กับนักศึกษาสำหรับการปฏิบัติงานจริง ทั้งนี้ในปี 2562 จะเปิดรับนักศึกษารุ่นแรกจำนวนเพียง 24 คน โดยคาดว่าจะเปิดรับสมัครช่วงเดือนมกราคม 2562 ซึ่งจะแจ้งรายละเอียดการรับสมัครอย่างเป็นทางการให้ทราบในภายหลัง สำหรับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับทุนการศึกษาเต็มจำนวนจากรัฐบาล