กรมควบคุมโรค พยากรณ์ปี 2562 ระวัง 3 โรคสำคัญ เผย “ไข้หวัดใหญ่” อาจป่วยสูงถึง 1.7 แสนราย คาด ยังเป็นสายพันธุ์ H1N1 “หัด” หากเดินหน้าฉีดวัคซีนอาจป่วยแค่ 1,000 ราย น้อยกว่าปี 61 ที่ป่วยพุ่ง 5,000 กว่าราย และ “ไข้เลือดออก” คาดป่วยสูง 9.4 หมื่นราย ขณะที่ “อุบัติเหตุจราจร” ยังต้องระวัง สถานการณ์ไม่ต่างจากปี 2561 ชี้ ลดอุบัติการณ์ลงได้ด้วยการฉีดวัคซีน ลดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุ ห่วงอากาศเย็น ก่อสร้างเพียบใน กทม. ค่า PM2.5 อาจเพิ่มขึ้น ส่วน “พิษสุนัขบ้า” ยังต้องระวัง แม้แนวโน้มลดลง
วันนี้ (12 ธ.ค.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) แถลงข่าวพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพที่สำคัญ พ.ศ. 2562 ว่า จากการพิจารณาข้อมูลก่อนปี 2561 สามารถพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพที่สำคัญในปี 2562 ได้ดังนี้ กลุ่มโรคติดต่อ ได้แก่ โรคไข้หวัดใหญ่ โรคหัด และโรคไข้เลือดออก และกลุ่มโรคไม่ติดต่อและภัยสุขภาพ คือ การบาดเจ็บจากการจราจรทางถนน รวมถึงในช่วงอากาศหนาวเย็น อาจเผชิญปัญหาหมอกฝุ่นควันทางภาคเหนือ และใน กทม. ที่มีการก่อสร้างจำนวนมาก อาจพบค่าฝุ่นละออง PM2.5 เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวัง อย่างไรก็ตาม โรคและภัยสุขภาพที่สำคัญในปี 2562 ทั้งหมดสามารถป้องกันได้ อย่างโรคไข้หวัดใหญ่และโรคหัดสามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ขณะที่โรคไข้เลือดออก ก็ต้องเข้มข้นในเรื่องการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ส่วนอุบัติเหตุจราจรต้องลดปัจจัยเสี่ยงทั้งความเร็วการการขับ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอุปกรณ์ป้องกัน
นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า การพยากรณ์โรคปี 2562 อยู่บนพื้นฐานโรคที่พยากรณ์ได้และมีความสำคัญ โดยแบ่งเป็น 1. โรคไข้หวัดใหญ่ ข้อมูลถึง 30 พ.ย. 2561 พบผู้ป่วย 166,342 ราย เสียชีวิต 38 ราย ในปี 2562 คาดว่า จำนวนผู้ป่วยจะยังคงสูงกว่าค่ามัธยฐาน 5 ปี โดยจะมีผู้ป่วย 177,759 ราย ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2561 รุนแรงน้อยกว่าปี 2560 โดยช่วงระบาด คือ ม.ค.-มี.ค. จะมีผู้ป่วยประมาณ 13,000-15,000 ราย และฤดูฝน ก.ค.- พ.ย. จะมีผู้ป่วยประมาณ 15,000-25,000 ราย ส่วนเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่พบปี 2561 มากสุดคือ H1N1 คาดว่า ปี 2562 ก็คงไม่ต่างกัน แต่ต้องเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์เพิ่มด้วย ทั้งนี การป้องกันคือ ปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม ล้างมือบ่อยๆ เมื่อสัมผัสสิ่งของ เลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย และ หยุดเรียน หยุดงานเมื่อป่วย หยุดกิจกรรมในสถานที่แออัด
2. โรคหัด จากข้อมูลปี 2561 ถึงวันที่ 25 พ.ย. พบผู้ป่วย 5,442 ราย เสียชีวิต 22 ราย พบปัญหาที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้สูงสุด ช่วงระบาดสูงสุดคือ ส.ค.- ต.ค. ทั้งนี้ การเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคหัดเป็นเรื่องสำคัญที่สุด โดยกลุ่มอายุ 1-4 ปี พบป่วยมากที่สุด ร้อยละ 30 เพราะอาจได้รับวัคซีนไม่ครบ ซึ่งหากเดินหน้าการฉีดวัคซีนให้ได้มากกว่า 95% ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ คาดว่าในปี 2562 ผู้ป่วยจะสงสัยโรคหัด 1,003 ราย และขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายการกำจัดโรคหัดตามพันธสัญญานานาชาติในปี 2563 ได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ ขอให้ผู้ปกครองพาเด็กเล็กไปรับวัคซีนรวมป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน จำนวน 2 เข็ม เข็มแรกเมื่อเด็กอายุ 9 เดือน และเข็มที่สองเมื่ออายุ 2 ปีครึ่ง
3. โรคไข้เลือดออก จากข้อมูลปี 2561 ถึง 30 พ.ย. พบผู้ป่วย 78,762 ราย เสียชีวิต 105 ราย ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปีก่อน เนื่องจากการรวมพลัของจิตอาสาปราบยุงลาย ช่วยให้สถานการร์ตั้งแต่ พ.ย. ที่ผ่านมาดีขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่า ปี 2562 จะมีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก 94,291 ราย โดยอาจพบสูงสุดในช่วง มิ.ย.- ส.ค. คาดว่า จะมีอำเภอเสี่ยงสูง 136 อำเภอจากทั้งหมด 928 อำเภอ จากการใช้เกณฑ์การประเมินพื้นที่ป่วยซ้ำซากและความรุนแรงของการเกิดโรคในปีปัจจุบัน โดยเฉพาะเขตสุขภาพที่ 3 5 และ 11 ดังนั้น ขอให้ประชาชนร่วมกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค คือ เก็บบ้าน เก็บขยะ เก็บน้ำ ป้องกันโรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา
และ 4. การบาดเจ็บจากการจราจรทางถนน โดยเฉพาะช่วงปีใหม่และสงกรานต์ ซึ่งช่วง 7 วันอันตรายปีใหม่ 2561 เกิดอุบัติเหตุ 27,000 ราย ตาย 495 ราย เกิดจากแอลกอฮอล์ 27.8% เป็นรถจักรยานยนต์ 80% คาดว่า ปีใหม่ 2562 จะเกิดขึ้นประมาณ 28,000 ราย ตาย 480 ราย ขณะที่ 7 วันอนัตรายสงกรานต์ 2561 เกิดอุบัติเหตุ 28,000 ราย ตาย 483 ราย เกิดจากแอลกอฮอล์ 26.9% และจักรยานยนต์ 79% คาดว่าสงกรานต์ 2562 จะเกิด 28,000 ราย และตย 480 ราย จึงขอแนะนำให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจร ไม่ขับรถเร็ว ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัย ผู้ขับขี่รถยนต์ใช้เข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง หากดื่มสุราแล้วไม่ควรขับรถ และง่วงต้องไม่ขับ เป็นต้น
เมื่อถามว่าปี 2562 ต้องระวังโรคพิษสุนัขบ้าด้วยหรือไม่ และพยากรณ์ได้หรือไม่ว่าจะเป็นอย่างไร นพ.นคร กล่าวว่า เนื่องจากโรคพิษสุนัขบ้าไม่ได้เป็นโรคที่ระบาดตามฤดูกาลและมีรูปแบบการระบาดที่ชัดเจน จึงไม่สามารถพยากรณ์เป็นตัวเลขได้ แต่ที่คาดการณ์ได้คือ ในปี 2562 การระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าจะลดลงแน่นอน ซึ่งปี 2561 มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 17 ราย เกิดจากการสัมผัสแล้วไม่ได้รับวัคซีนและเป็นเคสทีเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการตระหนักใเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีความตื่นตัวในโรคพิษสุนัขบ้า กรมปศุสัตว์ร่วมกับกรมควบคุมโรคในการฉีดวัคซีนฟ้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์เป็นจำนวนเพิ่มมากขึ้น มีความครอบคลุมมากขึ้น และมีการทำหมันสุนัขและแมวจำนวนมาก เรียกว่ามากที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา จึงคาดว่าจะทำให้สถานการณ์ในปี 2562 ดีขึ้น แต่ก็ต้องสื่อสารให้เฝ้าระวังด้วยว่า หากถูกสัตว์ทั้งของตนเองและคนอื่นกัดข่วนเลีย หากไม่แน่ใจในประวัติการรับวัคซีนของสัตว์ให้ไปรับบริการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าฟรีที่สถานพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ ซึ่งวัคซีนมีเพียงพอ