“โขนไทย” ได้มรดกภูมิปัญญาฯ จากพระมหากรุณาธิคุณ “สมเด็จพระราชินี รัชกาลที่ ๙” ทรงทำนุบำรุง วธ. ฉลองโขนตลอดปี 62 “เปิดตัวภาพยนตร์อนิเมชันรามเกียรติ์ ตอน รามาวตาร จัดแสดงโขนส่วนกลาง-ภูมิภาค ด้าน ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ระบุ โขน ได้รับการยกย่องในเวทีโลก เชื่อ กระตุ้นคนไทยตื่นตัวช่วยกันสืบสานโขนรุ่นสู่รุ่น
ตามที่ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ได้จัดการประชุมที่กรุงพอร์ตลูอิส ประเทศมอริเชียส เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา ยูเนสโก ประกาศขึ้นทะเบียน “โขนไทย” ขึ้นบัญชีมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ วันนี้ (30 พ.ย.) ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม จัดแถลงข่าว “โขน” มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่โขนได้ขึ้นบัญชีมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ซึ่ง โขนได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากสมเด็จพระราชินี ในรัชกาลที่ ๙ ได้ทรงทำนุบำรุง พัฒนาต่อยอดให้โขนโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ในเรื่องการแต่งกาย แต่งหน้า ชุดการแสดง เทคนิคการแสดง จะเห็นได้ว่าได้ใช้เทคโนโลยีด้านแสงสีเสียงอย่างสมบูรณ์ ทุกวันนี้โขนได้รับความสนใจจากเด็ก เยาวชน และประชาชน เพราะฉะนั้นโขนจะได้รับการสืบทอดรุ่นต่อๆ ไป
อย่างไรก็ตาม ภายหลังโขนได้รับการประกาศขึ้นบัญชีเป็นทางการแล้ว กิจกรรมสำหรับเฉลิมฉลองโขนตลอดปี 2562 อาทิ 1. จัดแสดงโขนรอบพิเศษ ตอน “พิเภกสวามิภักดิ์” วันที่ 3-4 ธันวาคม 2561 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย 2. จัดสร้างภาพยนตร์อนิเมชันรามเกียรติ์ ตอน รามาวตาร เพื่อฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ และจัดเผยแพร่องค์ความรู้ในรูปแบบต่างๆ เช่น การสาธิตงานช่างฝีมือโขน สาธิตการแสดงโขน การเสวนาความรู้คุณค่าของโขน การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ จัดพิมพ์หนังสือองค์ความรู้เกี่ยวกับโขนฉบับเยาวชน จัดทำสารคดีโขน นิทรรศการเผยแพร่ความรู้ รวมทั้งการจัดทำคลังข้อมูลโขนในรูปแบบดิจิทัล 3. จัดกิจกรรมสร้างความภาคภูมิใจด้วยการยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับบุคคล องค์กรผู้ทำคุณประโยชน์ต่อวงการโขน และ 4. จัดงานมหกรรมการแสดงโขน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ที่ทรงอนุรักษ์ ส่งเสริม ฟื้นฟู สืบสาน และพัฒนาการแสดงโขน เป็นต้น
ด้าน ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ เลขาธิการมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ประเทศไทยได้รับการประกาศให้โขนเป็นมรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ สมเด็จพระราชินี ในรัชกาลที่ ๙ สมเด็จพระเทพฯ ทั้ง 2 พระองค์ให้การสนับสนุนให้มีการจัดการแสดงโขนขึ้นทุกปี และสร้างเครื่องแต่งกาย มีช่างปัก ช่างเขียน ช่างทอ ช่างทำหัวโขน และเวลาที่จะแสดงจะมีการสร้างฉาก สร้างเทคนิคต่างๆ เพื่อให้ทันสมัย คนดูไม่เบื่อ พระองค์ท่านทรงมีพระราชประสงค์ให้คนรุ่นใหม่ เข้ามาเรียนรู้เรื่องการทำงานด้วย การดูโขน หากการแสดงขาดคนชมก็เดินหน้าไปไม่ได้ ต้องเรียกว่าโขนแพร่หลายจากพระมหากรุณาธิคุณของทั้ง 2 พระองค์ และการจัดแสดงโขนทุกปี เด็ก เยาวชน มีความตั้งใจจะเข้ามาแสดงซักครั้งหนึ่งในคณะของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ
“การแสดงโขน 11 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นคนไทยพาครอบครัวมาชมโขน เด็กๆ ก็สนใจมาเรียนโขน ฟ้อนรำ ก็คิดว่า โขน ได้รับการยกย่องในเวทีโลก จะทำให้คนไทยตื่นตัวมากขึ้น และเห็นว่า โขนเป็นสมบัติล้ำค่าของประเทศชาติ เป็นของแผ่นดิน แล้วช่วยกันสืบสานให้ยั่งยืนต่อไป”
