xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ได้อยู่แค่อวัยวะเพศ!! “เริม-ซิฟิลิส-หนองใน” ขึ้นดวงตาได้ หากมีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


จักษุแพทย์เตือนมีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน เสี่ยงเจอเชื้อเริม ซิฟิลิส หนองใน ขึ้นสู่ “ดวงตา” ทำตาอักเสบได้ทุกส่วน ทั้งเยื่อบุตา กระจกตา ม่านตา จอประสาทตา ชี้ หากติดเชื้อเอชไอวีไม่กินยาต้านฯ อาจเจอเชื้อ CMV ฉวยโอกาสเข้าสู่ตาเช่นกัน แนะสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์

ผศ.นพ.ณวพล กาญจนารัณย์ อาจารย์ประจำภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวถึงโรคทางเพศสัมพันธ์ที่มีผลต่อดวงตา ว่า การมีเพศสัมพันธ์ขอให้มีการป้องกันทุกครั้ง ด้วยการสวมถุงยางอนามัย เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งเชื้อหลายตัวมีผลกระทบถึงดวงตาได้ โดยพบว่า หลักๆ มีอยู่ 4 ตัว คือ 1. เริม ซึ่งมีอยู่ 2 ไทป์ คือ เริมที่ปากและเริมที่อวัยวะเพศ ซึ่งเชื้อเริมทั้ง 2 ไทป์ เมื่อเกิดการติดต่อแล้วมีโอกาสเชื้อเริมขึ้นตาได้ทั้งสิ้น โดยเชื้อเริมหากขึ้นตาแล้ว จะส่งผลให้เกิดกระจกตาเป็นแผลได้ เกิดการอักเสบที่ม่านตา และจอประสาทตาอักเสบได้ ซึ่งเชื้อจะมาตามกระแสเลือด

ผศ.นพ.ณวพล กล่าวว่า 2. เชื้อซิฟิลิส สามารถขึ้นสู่ดวงตาผ่านทางกระแสเลือดเช่นกัน โดยเชื้อซิฟิลิสสามารถส่งผลให้เกิดตาอักเสบได้ทุกรูปแบบ ทั้งเยื่อบุตาอักเสบ กระจกตาอักเสบ ม่านตาอักเสบ จอประสาทตาอักเสบ ขั้วประสาทตาอักเสบ เรียกว่า สามารถเกิดการอักเสบได้ทุกส่วนของดวงตา 3. โรคหนองในหรือเชื้อโกโนเรีย หากขึ้นสู่ดวงตาแล้ว จะทำให้เยื่อบุตาข้างนอกหรือตาขาวอักเสบ ซึ่งสมัยอดีตจะพบได้บ่อย หากแม่เป็นหนองใน เมื่อคลอดลูกออกมา จะพบทารกแรกเกิดมีอาการตาแดง ต้องให้การดูแลรักษาหยอดตา เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อที่เยื่อบุตา แต่ปัจจุบันการติดเชื้อทางนี้พบเห็นได้น้อยมาก

ผศ.นพ.ณวพล กล่าวว่า และ 4. การติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งตัวเชื้อเอชไอวีไม่ได้ส่งผลกระทบที่ดวงตาโดยตรง แต่หากไม่รับประทานยาต้านไวรัสเอชไอวี จนภูมิต้านทานร่างกายอ่อนแอลง จนกระทั่งติดเชื้อฉวยโอกาสต่างๆ ก็ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อที่ดวงตาได้ เช่น การติดเชื้อไซโตเมกาโลไวรัส (Cytomegalovirus) หรือ โรคติดเชื้อ CMV ซึ่งส่งผลที่จอประสาทตาได้เช่นกัน แต่ปัจจุบันผู้ติดเชื้อเอชไอวีสามารถรับประทานยาต้านไวรัสได้ทันที ทำให้อุบัติการณ์การติดเชื้อ CMV น้อยลงเช่นกัน

“ปัจจุบันยังคงพบการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ขึ้นสู่ดวงตาอยู่ ซึ่งมาจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน อย่างไรก็ตาม หากพบความผิดปกติของดวงตาให้รีบมาพบจักษุแพทย์ เพื่อวินิจฉัยสาเหตุและอาการ อย่างการอักเสบของดวงตาในส่วนต่างๆ ก็มีหลายสาเหตุ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งจะมีการเจาะเลือดตรวจว่าเกิดจากเชื้อเหล่านี้ด้วยหรือไม่ หากใช่ก็จะได้รักษาที่ต้นเหตุคือเชื้อเหล่านี้ควบคู่ไปด้วย” ผศ.นพ.ณวพล กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น