โดย..เกศกาญจน์ บุญเพ็ญ
เริ่มแล้ว!! “มหกรรมวันดอกไม้บาน เปิดบ้านเกษตรโคราชแฟร์ 2018” ครั้งที่ 2 ของวิทยาเกษตรและเทคโนโลยีนครราชสีมา (วทษ.นครราชสีมา) จังหวัดนครราชสีมา งานนี้จัดขึ้นภายในพื้นที่ 682 ไร่ของวิทยาลัย ถูกจัดสรร สร้างสรรค์สรรด้วยฝีมือคนเด็กเกษตร บริเวณด้านหน้าแปลงดอกไม้นานาพันธุ์ ทั้งดอกคอสมอส ดอกดาวเรือง ดอกทานตะวัน สีสันสดใสตัดกับฟ้าสวยๆของฤดูหนาว ให้ได้ชม และถ่ายรูปเช็คอินกันเต็มที่ ยังมีการจัดนิทรรศการการเกษตร การแสดงผลผลิตทางการ ฟาร์มปศุสัตว์ และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ที่สำคัญมีการแนะแนวการเรียนต่อสายอาชีพด้วย
งานครั้งแรกที่จัดไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมาแต่เสียงตอบรับดีเกินคาด จิตโสมนัส ชัยวงษ์ ผู้อํานวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครราชสีมา เล่าว่า ตัดสินใจจัดงานเปิดบ้านเกษตรแฟร์ครั้งแรกเมื่อเดือนม.ค.2561 ปรากฎว่าได้รับการตอบรับดี ทั้งจากนักศึกษา ผู้ปกครอง ชาวบ้านในพื้นที่และนักท่องเที่ยว จนมีเสียงเรียกร้องให้วิทยาลัยจัดทุกปี ทั้งนี้ เนื่องจากในปีนี้ วทษ.นครราชสีมา ได้รับเกียรติเป็นเจ้าาภาพงานการประชุมวิชาการ องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็พระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 40 โดยจะมีครูและนักศึกษาจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้ง 12 แห่ง เข้าร่วมกว่า 2,200 คน วิทยาลัยจึงได้ถือโอกาสจัดงาน “มหกรรมวันดอกไม้บาน เปิดบ้านเกษตโคราชแฟร์ 2018” ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 23-30 พฤศจิกายน 2561 ขึ้น
จิตโสมนัส เล่าอีกว่า ในงานครั้งที่ 2 นี้จะเป็นการเปิดตัว “บ้านเกษตร” ขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยเป็นร้านจำหน่ายกาแฟ ขนม อาหาร และจุดจำหน่ายสินค้าเกษตรที่เป็นผลผลิตของนักศึกษา รวมถึงรับสินค้าเกษตรของชุมชน โดยคอนเซ็ปต์ของเราคือ อาหารได้มาตรฐาน และปลอดภัย ขณะเดียวกัน มีแนวคิดที่จะพัฒนาให้พื้นที่จัดงานแห่งนี้เป็นเหล่งเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยว กับผู้สนใจและเด็กที่สนใจศึกษาได้ตลอดปี
“ตอนนี้ต้องปรับวิธีคิดทำการตลาดนำการเกษตร และนำท่องเที่ยวมาช่วย สร้างกระแสกระตุ้นเศรษฐกิจ เกษตรกรที่เข้ามาร่วมจำหน่ายไม่ได้มีนายหน้า ทุกอย่างจะราคาถูกและรายได้ก็เกิดแก่เกษตรกร ซึ่งบ้านเกษตรจะเปรียบเสมือนบ้านของเด็กเกษตรทุกคน เป็นตลาดสำหรับทุกคนที่สนใจสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ปลอดสารพิษ และทุกที่ในวิทยาลัยของเราก็เป็นแหล่งเรียนรู้ ห้องเรียนขนาดใหญ่ของนักศึกษาทุกคน ได้บูรณาการเรียนรู้ร่วมกัน เช่น ดอกไม้ที่จะนำมาจัดงาน เด็กต้องคำนวณว่าปลูกตอนไหนจะได้ดอกที่โตพร้อมนำมาจัดแสดง ดอกดาวเรืองที่โตเต็มที่ก็สามารถนำไปตัดจำหน่ายได้ เมล็ดพันธ์ก็ขายได้ หรือกระทั่งข้าวโพดหวาน ไม่ใช่ขายแค่ฝัก ยังแปรรูปเป็นน้ำนมข้าวโพดจำหน่าย ส่วนผักอื่นๆ ทั้งเห็ดภูฐาน ผักสลัดก็มีจำหน่ายตลอด”จิตโสมนัส กล่าว
ผอ.วทษ.นครราชสีมา บอกอีกว่า แปลงดอกไม้ต่างๆ หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ วัสดุอุปกรณ์ที่นำมาใช้ ก็ได้มาจากการเรียนการสอน มาจัดเป็นแปลงขนาดใหญ่ผลผลืตที่ขายได้ รายได้คืนกลับสู่วิทยาลัย ทำให้เรากล้าลงทุน ที่จะพัฒนาสู่การเป็นแหล่งเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์ เป็นตัวอย่างหนึ่งของสถานศึกษาต้นแบบ ที่สำคัญอยากจะลบภาพจำของเด็กและผู้ปกครองด้วยว่า การเป็นเกษตรไม่จำเป็นต้องมอมแมม เรียนจบแล้วมีงานทำ มีความรู้กลับไปพัฒนาบ้านตนเองได้
ทั้งนี้ สิ่งที่เกิดภาพเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนจากการจัดงานที่ผ่านมา นั่นคือ จำนวนผู้เรียนของวิทยาลัยเพิ่มขึ้น จากเดิมในปีการศึกษา 2560 มีผู้เรียนประมาณ 1,300 คน แต่ในปีการศึกษา 2561 จำนวนผู้เรียนอยู่ที่1,721 คน เพิ่มขึ้นประมาณ 400 คน และคาดว่าในปีการศึกษา 2562 ผู้เรียนจะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10% หรือประมาณ 1,800 คน ส่วนเหตุผลที่จำนวนผู้เรียนเพิ่มขึ้นคาดว่า เพราะพ่อแม่ ผู้ปกครองได้มาเห็นการจัดการเรียนการสอน มีกิจกรรมหลากหลาย เป็นห้องเรียนขนาดใหญ่ ลงมือปฏิบัติ เขาเชื่อมั่นว่ามาได้ความรู้
ขณะเดียวกัน วิทยาลัยไม่ได้ดูแลแค่เด็กในระบบปกติ แต่ยังให้ความสำคัญกับการลงพื้นที่บริการให้ความรู้ในเกษตรปลอดภัยแก่ประชาชน และปัจจุบันก็มีนักศึกษาในโครงการอาชีวศึกษาเพื่อการพัฒนาชนบท (อศกช.) ประมาณ 200 คนซึ่งเป็นกลุ่มเกษตรกรที่จบระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ไม่ได้เรียนต่อแต่มีประสบการณ์ในการทำเกษตร มาเรียนต่อยอดความรู้ในด้านเทคโนโลยีใหม่ การทำการตลาดเพื่อไปพัฒนาตนเองด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน วทษ.นครราชสีมา เปิดสอนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ในสาขาพืชศาสตร์ สัตวศาสตร์ ประมง ช่างกลเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร บริหารธุรกิจ และระดับปริญญาตรี 2 สาขา ได้แก่ สาขาเทคโนโลยีการผลิตพืช และสาขาเทคโนโลยีการผลิตสัตว์