xs
xsm
sm
md
lg

สธ.ลั่น 5 ปีพัฒนาสายพันธุ์-สารสกัด “กัญชา” ได้ ยังลุยงานวิจัยได้ ไม่มีข้อห้าม หลังเจอปมสิทธิบัตร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สธ.ลั่นขอเวลา 5 ปี พัฒนาสายพันธุ์ สารสกัด “กัญชา” ได้แน่ พร้อมทำเป็นยาจำหน่ายในประเทศ ไม่ห่วงต่างชาติขอขึ้นทะเบียน มั่นใจคุณภาพเท่ากัน ราคาถูกกว่า เกิดประโยชน์ต่อผู้ป่วยและเศรษฐกิจ ส่วนเรื่องสิทธิบัตรขอหารือกับพาณิชย์ ยัน รมว.พาณิชย์เห็นประโยชน์กัญชา เชื่อมีทางออก งานวิจัยยังเดินต่อได้ ไม่มีข้อห้าม ด้าน ม.รังสิตต้องร่วมมือหน่วยงานรัฐ

วันนี้ (15 พ.ย.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ... ฉบับเสนอโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 44 คน ว่า ร่าง พ.ร.บ.ที่จะออกมานี้ ขอใช้คำว่าคลายล็อกกัญชา เพราะกัญชายังคงเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 อยู่ แต่แค่สามารถนำมาใช้วิจัย ผลิตยารักษาโรคได้ เนื่องจากประเทศไทยได้ลงนามความร่วมมือกัญชายังเป็นยาเสพติดเช่นเดียวกับหลายประเทศทั่วโลก และทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียนก็ยังอยู่ในพันธะนี้ การจะปลดล็อกกัญชาแบบสุดซอยจึงยังเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อประโยชน์ของคนไทยโดยคนไทย สธ.จึงเสนอ สนช.ขอเวลา 5 ปี ในการผลิต วิจัย และจำหน่ายกัญชาทางการแพทย์ ซึ่งต้องทำโดยหน่วยงานรัฐ หรือเอกชนที่ร่วมมือกับหน่วยงานรัฐเท่านั้น

“ระยะเวลา 5 ปี ผมเชื่อว่าเราคงสามารถพัฒนาสายพันธุ์และสารสกัดออกมาเป็นยาเพื่อใช้ประโยชน์ได้ ถ้าต่างชาติจะเข้ามาก็ไม่ต้องกลัว เพราะเราผลิตมีคุณภาพเท่ากัน แต่ราคาถูกกว่า ตรงนี้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยเอง และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจประเทศด้วย” นพ.ปิยะสกลกล่าว

เมื่อถามถึงปัญหาการยื่นคำขอสิทธิบัตรกัญชาจากต่างชาติ และมีข้อเรียกร้องให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ยื่นฟ้องร้องต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องขอไปคุยรายละเอียดก่อน ซึ่งมีรายละเอียดมาก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์กับส่วนพัฒนาวิจัยกัญชาก็กำลังคุยกันอยู่ ทาง สนช.เองก็รับทราบปัญหา ส่วนการฟ้องร้องกันเองคงไม่ถึงขั้นนั้น ทางออกคือจะต้องไปคุยกันก่อนว่าจะทำอย่างไรเพื่อประโยชน์ของคนไทยโดยแท้จริง

เมื่อถามว่าที่ขอเวลา 5 ปี เพื่อไม่ให้ต่างชาตินำเข้ายาจากกัญชาใช่หรือไม่ นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า อันนี้เป็นคนละเรื่อง เพราะหากต่างชาติพัฒนาและผลิตกัญชาทางการแพทย์จนเสร็จและมาขอขึ้นทะเบียนเป็นเรื่องสิทธิบัตร แต่จะนำมาใช้เป็นยาก็ต้องไปขึ้นทะเบียนยากับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของไทย ซึ่งจะพิจารณาว่าจะให้ขึ้นทะเบียนอย่างไรใช้อย่างไร

ต่อข้อถามว่าระหว่างนี้ที่ยังไม่ยกคำขอสิทธิบัตรกัญชาจะยังวิจัยกัญชาได้หรือไม่ นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า ถ้าจะวิจัยก็สามารถทำได้ ไม่มีข้อห้าม แต่แค่การใช้ในคนยังต้องรอร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดออกมาก่อนจึงจะใช้ได้ ส่วน ม.รังสิต ซึ่งเป็นเอกชนนั้นก็คงต้องมาร่วมกับหน่วยงานรัฐก็จะเดินหน้าได้ ทุกอย่างมีทางออก ส่วนงานวิจัยไม่จำเป็นต้องเหมือนกับประเทศต่างๆ เราปรับสูตรต่างๆ ได้ แต่ต้องก่อให้เกิดประโยชน์กับการรักษาโรค

เมื่อถามว่าที่ประชุม ครม.มีการหารือกับ รมว.พาณิชย์หรือไม่ นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า ท่าน รมว.พาณิชย์ก็มองเห็นประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์ ดังนั้น ขอไปคุยกันย่อมมีทางออกแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น