สยบดรามา!! “สมเพชร” ผอ.ร.ร.สา ยกเลิกประกาศใส่เสื้อหนาวตราโรงเรียน

โซเชียลกระหน่ำ “โรงเรียนสา จ.น่าน” สั่งห้าม นร.ใส่เสื้อกันหนาวที่ไม่มีตราโรงเรียน ทำผิดสั่งยึด ขณะที่ “สมเพชร” ผอ.โรงเรียน สั่งยกเลิกระเบียบดังกล่าว แจงก่อนออกระเบียบผ่านความเห็นชอบทุกฝ่าย ยันไม่ได้แสวงหากำไรจากเด็ก และโรงเรียนมีการขายเสื้อที่มีตราสัญลักษณ์อยู่แล้ว

วันนี้ (13 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก “โรงเรียนสา จังหวัดน่าน” ได้โพสต์ภาพประกาศโรงเรียนสา เรื่อง ระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการสวมใส่เสื้อกันหนาวนักเรียน โดย นายสมเพชร งามธุระ ผู้อำนวยการโรงเรียนสา ลงนามในลงวันที่ 12 พ.ย.2561 ระบุว่า เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายของการศึกษาอบรมให้นักเรียนเป็นผู้มีระเบียบวินัย และส่งเสริมให้ประพฤติตน ตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ มีคุณธรรมจริยธรรม อยู่อย่างพอเพียง เป็นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โดยยึดระเบียบของโรงเรียนสา ว่าด้วยการควบคุมความประพฤตินักเรียน พ.ศ.2561 โรงเรียนจึงเห็นสมควรประกาศ ระเบียบ ปฏิบัติเกี่ยวกับการสวมเสื้อกันหนาวนักเรียน ขึ้นเพื่อเป็นแนวปฏิบัติ ดังนี้

1. โรงเรียนสาไม่อนุญาตให้นักเรียนสวมใส่เสื้อกันหนาวที่ไม่ใช่เสื้อประจำโรงเรียนสา 2. นักเรียนที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบนี้ ครูที่ปรึกษา ครูประจำวิชา หรือครูที่พบเห็น นักเรียนสวมใส่เสื้อกันหนาวที่ไม่ใช่เสื้อประจำโรงเรียนสา สามารถดำเนินการตรวจและยึดเสื้อที่ไม่ใช่เสื้อประจำโรงเรียน พร้อมกับระบุชื่อนักเรียน ชั้น เลขที่ และนำส่งที่ฝ่ายกิจการนักเรียน มีขั้นดำเนินการดังนี้ กระทำผิดครั้งที่ 1 ให้นักเรียนมาลงชื่อรับทราบและรับเสื้อคืนที่ฝ่ายกิจการนักเรียนหลังเลิกเรียน, กระทำผิดครั้งที่ 2 ให้นักเรียนพร้อมผู้ปกครอง ลงชื่อรับทราบ และรับเสื้อคืนจากฝ่ายกิจการฯ หลังเลิกเรียนในวันที่ถูกยึด และกระทำผิดครั้งที่ 3 ให้นักเรียนพร้อมกับผู้ปกครอง ลงชื่อรับทราบ และรับเสื้อคืนที่ฝ่ายกิจการฯ หลังจากสิ้นสุดภาคเรียนที่ถูกยึด และ 3. ให้ รอง ผอ.ฝ่ายบริหารกิจการนักเรียน เป็นผู้รักษาการให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัตินี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีเผยแพร่ประกาศดังกล่าวออกไป มีการแสดงความคิดเห็นว่าไม่เหมาะสม มีความย้อนแย้ง สร้างความเหลื่อมล้ำ มีการตั้งคำถามด้วยว่าโรงเรียนซื้อเสื้อกันหนาวแจกหรือไม่

ต่อมาเฟซบุ๊ก “โรงเรียนสา จังหวัดน่าน” ได้ลบโพสต์ประกาศดังกล่าว และได้โพสต์ภาพ “ขอชี้แจงเรื่องการสวมใส่เสื้อกันหนาวของนักเรียน” โดยฝ่ายกิจการนักเรียน ดังนี้ 1. ระเบียบเกี่ยวกับการสวมใส่เสื้อกันหนาวนักเรียน ได้ผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมฝ่ายกิจการนักเรียน, ที่ประชุมสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียน, ที่ประชุมคณะครูและบุคลากรโรงเรียน, ที่ประชุมผู้ปกครองนักเรียน 2. จุดประสงค์ของการประกาศระเบียบของโรงเรียน เพื่อลดปัญหาการสวมใส่เสื้อกันหนาวที่ไม่ใช่เสื้อของโรงเรียน เช่น เสื้อที่มีราคาสูง เลียนแบบค่านิยมที่ใส่เสื้อราคาสูง เป็นต้น, เพื่อความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำทางฐานะ ชนชั้นทางสังคม, เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความเป็นเอกลักษณ์ของสถาบัน

2. ทางโรงเรียนไม่มีจุดประสงค์แสวงหากำไรจากการซื้อ-ขาย เสื้อกันหนาวนักเรียน ซึ่งตามประกาศดังกล่าวไม่มีข้อความใดที่ให้นักเรียนซื้อเสื้อกันหนาวเพิ่มเติม และไม่มีข้อความประชาสัมพันธ์ใดให้นักเรียนซื้อเพิ่มกันหนาวเพิ่ม 4. ข้อยกเว้นที่ได้แจ้งแก่นักเรียนกรณีที่สภาพอากาศหนาวจัด ได้แจ้งแก่นักเรียน ดังนี้ นักเรียนสามารถสวมใส่เสื้อกันหนาวที่ไม่ใช่ของโรงเรียนไว้ด้านในและสวมใส่เสื้อกันหนาวของโรงเรียนด้านนอก 5. หากสภาพอากาศร้อน หรือไม่หนาว ไม่มีความจำเป็นต้องใส่เสื้อกันหนาว (ไม่ต้องใส่ทุกวัน) และ 6. การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ ขอความร่วมมือแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับทางโรงเรียน เนื่องจากการดำเนินการของโรงเรียนได้ผ่านการประชุมตามที่ระบุแล้ว

ขณะที่ นายสมเพชร งามธุระ ผู้อำนวยการโรงเรียนสา ยืนยันว่า การกำหนดระเบียบฯให้นักเรียนสวมใส่เสื้อกันหนาวตราสัญลักษณ์ของโรงเรียน ไม่ใช่เพื่อแสวงหากำไรอย่างแน่นอน เพราะการกำหนดระเบียบดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครองนักเรียนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เป้าหมายเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ลดปัญหาการใส่เสื้อที่มีราคาสูง ราคาเป็นพัน ขณะเดียวกัน ยังลดความเหลื่อมล้ำทางฐานะ ชนชั้นทางสังคม ไม่ว่าจะคนรวย คนจน ข้าราชการทุกคนเท่าเทียมกัน

“ผมเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งที่โรงเรียนประมาณ 1 ปี ก่อนหน้านี้ โรงเรียนก็มีการจำหน่ายเสื้อที่มีตราสัญลักษณ์โรงเรียนอยู่แล้ว ไม่ได้เพิ่งขายปีนี้ปีแรก ซึ่งโรงเรียนสา จัดการสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ครอบครัวส่วนใหญ่ฐานะปานกลาง และที่ผ่านมา เด็กก็จะซื้อเสื้อกันไว้อยู่แล้วก็จะใช้กันไปตลอด ยกเว้นเด็กชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ ม.4 ที่เข้าเรียนใหม่จะซื้อใหม่ แต่ก็พบว่าหลังๆเด็กบางคนใส่เสื้อหนาวที่มีราคาสูง บางคน 1,000-2,000 บาท ใส่ตามแฟชั่นก็พยายามสร้างความเข้าใจกับเด็ก แต่ปีนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ออกระเบียบเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม แต่เมื่อเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน ผมก็จะประกาศยกเลิกระเบียบนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ” นายสมเพชร กล่าว