การยกดอกเป็นเทคนิคการทำลวดลายในการทอผ้า ซึ่งเกิดจากวิธีการยกและแยกเส้นไหม จากเดิมปัญหาในการทอต้องใช้เท้าเหยียบเพื่อยกตะกอสลับไปมาตามลวดลายที่กำหนดไว้ จึงเกิดข้อจำกัดด้านลวดลาย เพราะหากใช้ลวดลายมากต้องใช้ตะกอมากขึ้น ทำให้ผู้ทอจะหยิบตะกอไม่ถึง รวมทั้งทำให้ลวดลายถูกจำกัดตามไปด้วย
นายณัฐวัชร นิธิทองสกุล กรรมการผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนเชอรัล ณิช จำกัด ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ ITAP ได้นำผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร มาให้ความรู้และพัฒนานวัตกรรมกี่ทอมือยกดอก 2 ขาเหยียบ เพื่อมุ่งเน้นช่วยวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผ้าทอมือในภูมิภาคอีสานและภาคต่างๆ ของประเทศ ให้สามารถพัฒนาลวดลายใหม่ๆ ได้ตามต้องการ โดยเฉพาะลวดลายรูปทรงเรขาคณิต ซึ่งเป็นลวดลายที่ร่วมสมัยและกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
“กี่ทอมือยกดอก ระบบ 12 ตะกอ 2 ขาเหยียบ และกี่ทอมือยกดอก ระบบ 20 ตะกอ 2 ขาเหยียบ เป็นกี่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อทอผ้ายกดอกลวดลายใหม่ๆ และแบบรูปทรงเลขาคณิตทุกรูปแบบ แต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของกี่ทอมือพื้นบ้าน สามารถนำไปใช้ได้ทุกที่ ไม่ต้องใช้กระแสไฟฟ้าในการทำงาน ดูแลรักษาง่าย สามารถทอผ้ายกดอกได้รวดเร็วกว่า และควบคุมคุณภาพการทอได้สม่ำเสมอกว่ากี่ทอผ้ายกดอกแบบเดิม” นายณัฐวัชร กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อเทียบระยะเวลาการทอต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง กี่ทอมือยกดอก 12 และ 20 ตะกอ สามารถทอได้ทุกลายที่เป็นผ้ายกและลายแบบรูปทรงเลขาคณิตทุกรูปแบบ ปริมาณทอเฉลี่ย 3-5 เมตร ซึ่งมีความยาวมากกว่า เมื่อเทียบกับ กี่ทอมือ 2 แบบธรรมดา ลักษณะลายผ้าจก ผ้ามัดหมี่ และผ้าพื้น ที่มีปริมาณทอเฉลี่ยตั้งแต่ 0.3-3.5 เมตร กี่ทอฝ้ายยกดอก 4 ตะกอ ลักษณะลายลูกแก้ว ลอกดอกพิกุล ลายผักแว่น ที่มีปริมาณทอเฉลี่ย 1-2 เมตร (ขึ้นกับลายทอ) และกี่ทอผ้ายกดอก 8-10 ตะกอ ลักษณะลายดอกจันทร์ ดอกพิกุล เกล็ดเต่า ฯลฯ ที่มีปริมาณทอเฉลี่ย 0.5-1.2 เมตร ซึ่งขึ้นอยู่กับความยากง่ายของลาย
แต่เดิมริเริ่มทำกี่ทอมือยกดอกเพื่อเป็นสื่อการเรียนการสอน ภายหลังมองในเชิงพาณิชย์มากขึ้น โดยในปีนี้ได้เริ่มเปิดตลาดขายแล้ว หลังจากเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา ได้ส่งนวัตกรรมกี่ทอมือยกดอก ระบบ 12 ตะกอ 2 ขาเหยียบ และกี่ทอมือยกดอก ระบบ 20 ตะกอ 2 ขาเหยียบ เข้าร่วมในโครงการบัญชีนวัตกรรมไทย ซึ่งเป็นตลาดแรกที่ บริษัท เนเชอรัล ณิชฯ ได้เลือกวางจำหน่ายสินค้านวัตกรรมกี่ทอมือยกดอก 2 ขาเหยียบฯ นี้ สามารถขายได้แล้วกว่า 20 หลัง ราคาหลังละ 100,000-150,000 บาท (ตามคุณสมบัติของกี่) โดยมีจุดเด่นของนวัตกรรมตรงที่ไม่ต้องใช้กระแสไฟฟ้า ระบบบังคับการยกตะกอด้วยไม้ลาย ทำให้เกิดลวดลายจากการยกดอกในขณะทอแบบอัตโนมัติ ตามลวดลายที่ออกแบบไว้ ส่วนตะกอจะถูกยกโดยสลิงควบคุมจากไม้ลายโดยไม่ต้องท่องจำขณะทอเหมือนกี่ทอแบบทั่วไป ที่สำคัญ สามารถสร้างจุดขายที่โดดเด่นในเรื่องลวดลายผ้า ที่หลากหลาย มีความแม่นยำของลายผ้า และเพิ่มปริมาณการทอได้มากขึ้นในระยะเวลาการทอที่น้อยลงกว่ากี่ทอมือทั่วไป
“ในการทอผ้ายกดอกแต่ละผืนต้องใช้เวลาในการทอนาน เพราะต้องอาศัยความชำนาญ ประสบการณ์ของผู้ทอแต่ละคน ดังนั้น กี่ทอมือระบบ 12 ตะกอ 2 ขาเหยียบ จึงเป็นอีกนวัตกรรมทางเลือกที่ช่วยกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ที่ทอผ้าเพื่อพัฒนาผ้าทอยกดอกลวดลายใหม่ๆ ตามความต้องการของตลาด และเพื่อให้มีการสืบทอดพัฒนาต่อยอดผ้าพื้นเมืองของไทยในอนาคต” นายณัฐวัชร กล่าว