รมว.สธ.ลุยแก้ปัญหาภาระงานทุกวิชาชีพสุขภาพ พร้อมรับเรื่องหามาตรการช่วยเหลือเจ็บป่วยจากการทำงาน ย้ำแม้มีกรอบชั่วโมงทำงานหมอ แต่ต้องยืดหยุ่นเรื่องช่วยผู้ป่วย รองปลัด สธ. จ่อเชิญทุกวิชาชีพประชุม 1-2 สัปดาห์
ความคืบหน้ากรณีการกำหนดชั่วโมงทำงานของบุคลากรสาธารณสุขทุกวิชาชีพ โดย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษา
วันนี้ (5 พ.ย.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สธ. จะดูเป็นเรื่องเป็นราวเลยว่า ภาระงานบุคลากรสาธารณสุขทุกวิชาชีพเป็นอย่างไร ซึ่งแน่นอนว่าภาระงานต้องขึ้นกับอัตรากำลังด้วย ต้องยอมรับว่าอัตรากำลังเรายังขาดแคลนอยู่ เพราะฉะนั้นภาระงานจึงมากขึ้น แต่จะทำอย่างไรให้ภาวะดังกล่าวสามารถช่วยเหลือกันให้ได้ดีที่สุด เรื่องนี้ปลัด สธ.รับเรื่องนี้ไปดูแล้ว และให้ความสำคัญเต็มที่ โดยหลักๆ คือ ทรัพยากรบุคคลเป็นเรื่องสำคัญที่สุด จึงขอให้ใจเย็น เพราะเหตุการณ์นี้ไม่ใช่ว่าเพิ่งมาปะทุ แต่เป็นมานานเป็นมาตลอด ซึ่งครั้งนี้จะทำให้เป็นระบบ แต่ต้องรอสักนิด
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมูลนิธิเครือข่ายพยาบาลชุมชนเสนอให้ สธ.มีมาตรการช่วยเหลือพยาบาลที่ได้รับความเสียหายทางการแพทย์มากกว่าการเยียวยาเบื้องต้นตามมาตรา 41 ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่ให้เงินชดเชยไม่เกิน 4 แสนบาท นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า สธ.จะรับเรื่องนี้ไปพิจารณา เพราะทุกคนอยากช่วยทั้งนั้น เนื่องจากพยาบาล เป็นทรัพยากรบุคคลสายวิชาชีพหนึ่งในหลายวิชาชีพที่เราเป็นห่วงเสมอ อะไรที่ช่วยได้ก็ช่วยเต็มที่ ฝากให้กำลังใจกันเต็มที่ เราไม่เคยทอดทิ้งกัน
เมื่อถามว่าหากทำกรอบชั่วโมงการทำงานแพทย์ มีการลดเวลาลดภาระงานลง จะเปิดช่องให้แพทย์เปิดคลินิกเพิ่มขึ้นหรือไม่ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ขอดูผลการหารือที่จะตั้งทีมขึ้นมาแก้ปัญหา แต่อย่าลืมว่างานของหมอไม่มีที่สิ้นสุด อย่างทำงานอยู่ห้องฉุกเฉิน กำลังผ่าตัดช่วยชีวิต เมื่อหมดเวลางาน ก็ไม่ใช่จะเลิกผ่าตัดเลิกช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ ซึ่งหมอถูกฝึกให้มาช่วยชีวิต มาทำประโยชน์เพื่อผู้ป่วยอยู่แล้ว ดังนั้น การดำเนินการใดๆ ก็ต้องยืดหยุ่นด้วย ไม่ใช่ว่าพอหมดเวลางานต้องเลิกงานทันที แบบนี้ไม่ใช่แพทย์ ไม่ใช่พยาบาล เราทำแบบนั้นไม่ได้ ก็ต้องดูตามบริบทด้วย เพราะการดูแลชีวิตคนต้องมีความยืดหยุ่นด้วย
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองปลัด สธ. กล่าวว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการประสานกับสภาวิชาชีพต่างๆ รวมทั้งสมาคม ชมรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อเรียกประชุมและกำหนดการทำงานเพื่อหาทางแก้ปัญหาให้แก่ทุกวิชาชีพ คาดว่าจะเรียกประชุมนัดแรกได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ไม่เกินจากนี้ เนื่องจากต้องประสานเวลาของแต่ละวิชาชีพ แต่เรื่องนี้กระทรวงฯ แก้ปัญหาแน่นอน ไม่ต้องกังวล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาระงานหนัก หรือการกระจายบุคลากรให้เหมาะสมกับภาระงานของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งเรื่องระบบส่งต่อที่มีพยาบาลออกมาแสดงความกังวลต่างๆ หากมีการเสนอในที่ประชุมก็จะมีการพูดคุยถึงเรื่องนี้ด้วยแน่นอน
นพ.ไพศาล กล่าวว่า ส่วนกรณีพยาบาลเรียกร้องให้มีการเยียวยามากกว่ามาตร 41 สปสช.นั้น จริงๆ มีระเบียบของกระทรวงการคลังให้มาช่วยผู้ให้บริการทางการแพทย์ที่ประสบความเสียหายจากการให้บริการ ซึ่งไม่ใช่แค่หน่วยงานใน สธ.เท่านั้น แต่รวมบุคลากรทางการแพทย์ในทุกสังกัดก็จะได้การช่วยเหลือจากระเบียบนี้ อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องนี้ในการประชุมที่จะนัดหารือทั้งหมด หากมีการเสนอข้อเสนอใดๆเข้ามาก็พร้อมรับพิจารณา เพื่อร่วมหาทางออกร่วมกัน