อภ.คาด 1 เดือน รู้ผลตรวจคุณภาพ “กัญชาของกลาง” เผย สกัดน้ำมันกัญชาได้แล้ว ระบุ ปี 62 เล็งผลิตให้ได้ 4,000 ขวด ใน ม.ค. ขยายระดับกึ่งอุตสาหกรรม 6 หมื่นขวด ใน พ.ค. และปลูกกัญชาเองก่อนสิ้นปี มั่นใจปรับปรุงสายพันธุ์ให้มีสาร CBD สูงได้ เชื่อขึ้นทะเบียนยากับ อย.ได้แน่ เสนอชาวบ้านปลูกกัญชง แจงปลดล็อกกัญชาต้องคลายไปทีละขั้น
นพ.โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) และประธานคณะกรรมการพิจารณาการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ กล่าวถึงการปลดล็อกกัญชาทางการแพทย์ที่ยังมีข้อเห็นต่างในรายละเอียด โดยเฉพาะหลักเกณฑ์เงื่อนไขการใช้ต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อแพทย์แผนไทย หรือการขึ้นทะเบียนยารักษาจากกัญชา ว่า ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ต้องค่อยๆ ทยอยปลดล็อก จะปลดล็อกแบบเปิดอิสระแต่แรกเลย ก็อาจเกิดปัญหา และจะดึงกลับมาก็ยากแล้ว จึงมองว่า ค่อยๆ ปลดไปทีละขั้นตอนจะดีกว่า อย่างการยกระดับสารสกัดกัญชาจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เป็นประเภท 2 ทางแพทย์แผนไทยก็อาจต้องใจเย็นก่อน เมื่อกฎหมายของทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ออกมาก็ค่อยคลายอีกขั้น ทุกอย่างก็จะเดินหน้าไป
นพ.โสภณ กล่าวว่า สำหรับข้อกังวลเรื่องอาจมีปัญหาหรือติดขัดเรื่องการขึ้นทะเบียนยาจากกัญชานั้น ทาง อภ.มั่นใจว่า สามารถผลิตและขึ้นทะเบียนกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ เพราะเป็นการผลิตยาจากพืชสมุนไพร ซึ่ง อภ.ก็สามารถขึ้นทะเบียนแอนตีออกซ์ ที่ทำมาจากขมิ้นชันมาแล้ว ก็สามารถทำได้ จึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาในอนาคต เพราะก็มั่นใจในคุณภาพของการผลิตเช่นกัน สำหรับขั้นตอนการผลิตน้ำมันกัญชาของ อภ.นั้น เรามีการแบ่งเป็นขั้นตอน คือ 1. ขอกัญชาของกลางมาสกัด เพื่อให้ทราบสารสำคัญ คือ THC และ CBD มีปริมาณเท่าไร อย่างไร มีการปนเปื้อนโลหะหนัก ยาฆ่าเชื้อรา ยาฆ่าแมลงหรือไม่ วิธีสกัดที่เหมาะสมเป็นอย่างไร
“ขณะนี้เราสกัดน้ำมันกัญชาได้แล้ว ก็ใช้การสกัดหลายๆ วิธี เพื่อดูว่าวิธีไหนดีและรวดเร็วที่สุด ส่วนสารที่ได้พบว่า จะได้สัดส่วนของสาร THC สูง สำหรับสาร CBD ที่ได้น้อยนั้น อาจจะขออนุญาต อย.นำเข้า หรือให้ อย.สั่งนำเข้ามาเพื่อผสมตามสัดส่วนที่จะใช้ในการรักษาโรคต่างๆ ส่วนการปนเปื้อนนั้น ตอนนี้ได้ส่งวัตถุดิบล็อตเดียวกับที่สกัดน้ำมันกัญชาไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบ ซึ่งจะทราบผลในอีก 1 เดือน” นพ.โสภณ กล่าว
นพ.โสภณ กล่าวว่า 2. หากของกลางมีมาตรฐาน ปลอดภัยสำหรับผู้ป่วย จะทำการผลิตเพื่อใช้การศึกษาวิจัยและรักษาผู้ป่วย โดยมีแผนจะผลิตจำนวน 4,000 ขวดใน ม.ค. 2562 และขอของกลางมาผลิตเพิ่มให้ได้เดือนละ 6 พันขวด ตั้งแต่ ก.พ.- เม.ย. 2562 เป็นการสกัดในห้องปฏิบัติการที่โรงงานพระราม 6 3. จะลงทุนปรับสถานที่และนำเข้าเครื่องสกัด เพื่อสกัดน้ำมันกัญชาในระดับกึ่งอุตสาหกรรมจากของกลางที่โรงงานรังสิต ตั้งแต่ พ.ค. 2562 เป็นต้นไป ให้ได้เดือนละ 6 หมื่นขวด 4. ปรับปรุงสถานที่ปลูกกัญชาและพัฒนาสายพันธุ์ เพื่อให้ได้สายพันธุ์ที่ดี โดยจะพัฒนาสายพันธุ์ที่ให้สาร CBD สูงๆ ซึ่งทาง ผศ.วิเชียร กีรตินิจกาล อาจารย์คณะเกษตรศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญก็มั่นใจว่าจะสามารถพัฒนาขึ้นได้ โดยคาดว่าจะเริ่มปลูกได้ก่อนสิ้นปี 2562 เพื่อนำมาสกัดเป็นน้ำมันกัญชาและขึ้นทะเบียนยาให้ได้โดยเร็ว และ 5. วางแผนผลิตระดับอุตสาหกรรมที่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี ที่ อภ.มีที่ดินจำนวน 1,500 ไร่
“สำหรับการปลูกกัญชาในระดับชาวบ้านนั้น มองว่า ระยะแรกเช่นนี้ยังไม่ควรให้ชาวบ้านทั่วไปปลูก อาจจะยังต้องมีการคุมเข้มก่อน มิเช่นนั้น อาจรั่วไปยังคนอื่นได้ง่าย แต่อาจสนับสนุนให้ปลูกกัญชงแทน เพราะจะได้ทั้งสาร CBD และเส้นใยที่นำมาใช้ประโยชน์ แต่ต้องปลูกโดยให้มีสาร THC ไม่สูง ซึ่งขณะนี้ อย.ก็กำลังศึกษาอยู่” นพ.โสภณ กล่าว