เลขาฯ กพฐ.ตั้ง กก.ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีโซเชียลแชร์มีกลุ่มเมียที่ปรึกษารัฐมนตรี ใช้รถหลวงตะลอนทัวร์วันเดย์ทริป เบื้องต้น ผอ.เขตพื้นที่ฯ รายงานมีการขอใช้รถตามระเบียบราชการ โดยกลุ่มเอกชนจ่ายค่าน้ำมัน-เบี้ยเลี้ยงคนขับเอง ยอมรับบกพร่องไม่จัดเจ้าหน้าที่คุมรถ และมีการออกนอกเส้นทาง
จากกรณีที่ เฟซบุ๊กปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ได้โพสต์ภาพและเนื้อหาระบุว่า “เมียที่ปรึกษารัฐมนตรี ใช้รถหลวงพาคณะตะลอนทัวร์ ใช้รถหลวงจัดทัวร์วันเดย์ทริป เมื่อวันเสาร์ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา คณะคุณนายที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมบรรดาเซเลบสงขลา ใช้รถตู้ สพป.สงขลา เขต1 ตะลอนทัวร์ 9 ภารกิจแสนชิลล์ทั่วเมืองพัทลุง เริ่มต้นภารกิจแรกออกเดินทางไปกินข้าวร้านอาหารชื่อดังใน อ.ตะโหมด ต่อด้วยแวะเซลฟีสวนมโนราห์ เดินชมวังเจ้าเมืองพัทลุง ช้อป ชม ชิมอาหารที่สวนไผ่ขวัญใจ ตลาดป่าไผ่สร้างสุข อ.ควนขนุน ชมวิถีชาวนาชมธรรมชาติชิลล์ๆ นาโปแก เลือกซื้อกระเป๋ากระจูดที่ VARNI และทะเลน้อย เที่ยวมาทั้งวันพักเบรกเดินเล่นแถวตลาดเรื่องเล่ากับข้าวยามเย็น ปิดท้ายภารกิจด้วยการแวะทานข้าวร้านอาหารหรูริมไฮเวย์ทางหลวง เป็นการนำรถราชการไปใช้ได้คุ้มจริงๆ” ซึ่งมีผู้มาแสดงความเห็น และวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากถึงความไม่เหมาะสม
วันนี้ (31 ต.ค.) ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ตนทราบเรื่องดังกล่าวและสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีนายสนิท แย้มเกสร ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ.เป็นประธานและให้เร่งดำเนินการโดยเร็ว ขณะเดียวกัน ดร.ประสิทธิ์ หนูกุ้ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สงขลา เขต 1 ได้รายงานข้อมูลเบื้องต้นมาทางไลน์ (Line) ว่า กรณีนี้มีการขออนุญาตใช้รถตามระเบียบราชการ โดยภาคเอกชนซึ่งผู้ขอใช้รับผิดชอบค่าเบี้ยเลี้ยงคนขับ และค่าน้ำมันให้ แต่ก็ยอมรับว่าเป็นความบกพร่องของทาง สพป.สงขลา เขต 1 เอง เพราะเมื่อมีการให้ยืมรถแล้ว จะต้องเดินทางไปบนเส้นทางตามที่ขออนุญาตมา โดยมีเจ้าหน้าที่ของเขตพื้นที่ฯ ควบคุมไปกับรถ แต่กรณีนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ไปด้วย ซึ่งทาง ผอ.สพป.สงขลา เขต 1 ก็แจ้งว่า ยินดีรับการพิจารณาจากผู้บังคับบัญชา แต่ยืนยันว่าครั้งนี้ไม่ได้มีสิทธิพิเศษใดๆ ไม่เกี่ยวข้องกับผู้หลักผู้ใหญ่ และมีการออกนอกเส้นทางจริง แต่ทางเขตพื้นที่ฯยังไม่ได้รายงานรายละเอียดเส้นทางมาให้
“เบื้องต้นเขตพื้นที่ฯ รายงานมีการขอใช้รถตามระเบียบราชการของกลุ่มภาคเอกชน ซึ่งก็เหมือนกลุ่มเอกชนอื่นๆ ที่จะเข้าไปอยากจะทำกิจกรรมที่โรงเรียนก็มาขอให้ราชการช่วยอำนวยความสะดวกให้แต่ต้องขอใช้รถตามระเบียบ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองและอยู่ในเส้นทางที่ขอ และ ผอ.เขตพื้นที่ฯ ก็ยอมรับว่าแม้จะอนุมัติตามระเบียบแต่ก็เป็นความบกพร่องของเขตพื้นที่ฯที่หลังจากให้ยืมรถ ไม่ได้แจ้งกติกาชัดเจน ไม่มีเจ้าหน้าที่ควบคุมไปและออกนอกเส้นทาง ซึ่งตัวผอ.เขตพื้นที่ฯ ก็ยินดีรับผิดชอบให้ลงโทษ ซึ่งโทษก็ต้องอาจจะเป็นลักษณะบกพร่องในการทำงาน ไม่ปฏิบัติตามระเบียบตรงนี้ก็ต้องรอสรุปผลการตรวจสอบก่อน อย่างไรก็ตาม โดยหลักการแล้วถ้าภาคเอกชนที่จะไปทำประโยชน์แก่เด็กและประโยชน์แก่ราชการ ไม่ว่าจะกลุ่มไหนทางราชการก็พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องของผู้ใหญ่ ไม่มีสิทธิพิเศษการเป็นใครมาจากไหน ไม่เกี่ยวข้องกับราชการส่วนของกระทรวง หรือใครทั้งนั้น” ดร.บุญรักษ์ กล่าว