บทเรียน "คูณ-คณิน" เปิดเส้นทาง "หมอฟัน" ทำคลินิกทันตกรรม

หายเงียบจากวงการบันเทิงไปนานหลังมีภาพหลุด "คูณ-คณิน บัดติยา" อดีตพระเอกละคร กลับมาเป็นข่าวโด่งดังอีกครั้ง จากการถูกจับด้วยการลอบเป็นหมอฟันเถื่อน ส่วนคลินิกที่ทำงานก็ถูกยกเลิกใบอนุญาตไปนานแล้ว

ที่ผ่านมา "คูณ คณิน" เมื่อครั้งอยู่ในวงการบันเทิง เป็นที่ทราบกันดีว่า กำลังเรียนคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต แต่เมือ่เกิดเหตุภาพและคลิปหลุดออกมา ก็ได้ออกไปเรียนต่อต่างประเทศ ซึ่งในการจับกุมครั้งนี้ คูณ คณิน อ้างว่าเรียนจบคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศฟิลิปปินส์ อยู่ระหว่างการขอใบประกอบวิชาชีพทันตกรรมจากทันตแพทยสภา

ส่วนจะจบทันตแพทย์จากต่างประเทศจริงหรือไม่ คงต้องยกหน้าที่สอบสวนแก่ทางตำรวจ แต่ที่แน่ชัดคือ หากเรียนจบจริงก็ไม่มีสิทธิประกอบวิชาชีพในประเทศไทย เพราะยังไม่ได้รับใบประกอบวิชาชีพทันตกรรมจากทันตแพทยสภา

ทพ.ไพศาล กังวลกิจ นายกทันตแพทยสภา กล่าวว่า คนที่เรียนจบทันตแพทย์ ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ หากจะมาทำหัตถการหรือเปิดคลินิกในประเทศไทยจะต้องมาสอบใบประกอบวิชาชีพทันตกรรมจากทันตแพทยสภาก่อน แต่จะต้องจบจากสถาบันที่ทันตแพทยสภาให้การรับรองมาตรฐานด้วย ไม่ใช่ว่าจบจากที่ไหนก็ได้แล้วมาสอบ สำหรับกรณีโรงเรียนสอนทันตกรรมในประเทศฟิลิปปินส์นั้นเรียนว่า มีอยู่จำนวนมาก แต่ก็มีอยู่ไม่มากที่ได้มาตรฐานที่ทันตแพทยสภาให้การรับรอง ส่วนใหญ่ที่เรารับรองจะเป็นโรงเรียนของรัฐบาล สำหรับสถานศึกษาที่ดาราคนดังกล่าวระบุว่าจบมานั้น ตนยังไม่ทราบว่าคือที่ไหน จะเป็นที่ที่เราให้การรับรองหรือไม่ก็ยังไม่ทราบ ต้องรอดูข้อมูลให้ชัดเจนอีกครั้ง

ส่วนคูณ คณิน หากจบจากสถาบันที่ทันตแพทยสภาให้การรับรองจริง จะยังสามารถสอบใบประกอบวิชาชีพทันตกรรมได้หรือไม่นั้น ทพ.ไพศาล กล่าวว่า เป็นเรื่องยากมาก เพราะตามระเบียบข้อบังคับของทันตแพทยสภา ระบุว่า คนที่จะเป็นสมาชิกทันตแพทยสภา ที่สามารถสอบใบประกอบวิชาชีพได้นั้นต้องมีคุณธรรม จริยธรรม มีความประพฤติที่ดี ไม่ต้องโทษมาก่อน ซึ่งกรณีนี้ถือว่ามีความผิด 2 ข้อหา คือ 1. เปิดคลินิกโดยไม่ได้รับอนุญาตผิด พ.ร.บ.สถานพยาบาล และ 2.ผิด พ.ร.บ.วิชาชีพ คือทำหัตถการโดยไม่มีใบประกอบวิชาชีพ ซึ่งทั้ง 2 ข้อหามีโทษทั้งจำทั้งปรับ

"อยากใช้เรื่องนี้เป็นบทเรียนฝากถึงนักศึกษาทันตแพทย์คนอื่นด้วยว่า ขอให้ทำทุกอย่างตามขั้นตอน มาสอบใบประกอบวิชาชีพให้เรียบร้อย อย่าทำอะไร ทั้งที่ไม่มีใบอนุญาต เพราะได้ไม่คุ้มเสีย ตัดอนาคตของตัวเอง ที่เราต้องเข้มงวดเช่นนี้ก็เพื่อปกป้องประชาชน ให้ประชาชนได้มั่นใจว่าคนที่มาให้บริการทันตกรรมนั้นคือคนที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ไม่ใช่ว่าใครก็ได้" ทพ.ไพศาล กล่าว

สำหรับการเปิดสถานพยาบาลหรือคลินิกนั้น คลินิกเถื่อนที่ คูณ คณิน ถูกจับกุมนั้น จัดว่าเป็น "สหคลินิก" คือ มีการให้บริการทั้งแพทย์และทันตแพทย์ โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกมาให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ ว่า คลินิกดังกล่าวเดิมเปิดอนุญาตอย่างถูกต้อง โดยมีแพทย์เป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาล แต่ต่อมาแพทย์คนดังกล่าวได้เลิกทำ ซึ่งทางคลินิกไม่ได้หาแพทย์หรือทันตแพทย์มาเป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาลแทน จึงถูกยกเลิกใบอนุญาตสถานพยาบาล

ทั้งนี้ จากข่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ตัวของ คูณ คณิน ไม่ใช่เจ้าของคลินิก แต่เป็นญาติหรืออาจเป็นพี่ชายของคูณ คณิน

แล้วการเปิดคลินิกอย่างถูกต้อง สามารถทำได้อย่างไรบ้าง นพ.ธงชัย กีรติหัตยากร รองอธิบดี สบส. ให้ข้อมูลว่า การขออนุญาตเปิดสถานพยาบาลหรือคลินิก ตาม พ.ร.บ. สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 จะต้องมี ผู้ประกอบการกิจการ ซึ่งสามารถเป็นใครก็ได้ จะเป็นคนทั่วไป หรือเป็นแพทย์ ทันตแพทย์ ก็ได้ และผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ซึ่งจะต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพที่สอดคล้องกับลักษณะของคลินิกที่เปิด ไม่มีไม่ได้ หากไม่มีถือว่าผิดกฎหมาย ดังนั้น หากเปลี่ยนผู้ดำเนินการ ก็จะต้องมาแจ้งกับทาง สบส.ว่าปัจจุบันผู้ดำเนินการเป็นใคร

สำหรับรายละเอียดของคลินิกมีอยู่ประมาณ 10 ประเภท คือ

1.คลินิกเวชกรรม ต้องดำเนินการโดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือแพทย์

2.คลินิกเวชกรรมเฉพาะทาง ดำเนินการโดยแพทย์ที่ได้รับวุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติจากแพทยสภาในสาขานั้น เช่น สูตินรีเวชกรรม ก็ต้องเป็นสูติแพทย์ เป็นต้น

3.คลินิกทันตกรรม ดำเนินการโดยผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมหรือทันตแพทย์

4.คลินิกทันตกรรมเฉพาะทาง ดำเนินการโดยทันแพทย์ที่ได้รับวุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติจากทันตแพทยสภาในสาขานั้น เช่น คลินิกจัดฟัน ก็ต้องเป็นทันตแพทย์เชี่ยวชาญจัดฟัน เป็นต้น

5.คลินิการการพยาบาลการและผดุงครรภ์ ดำเนินการโดยพยาบาลวิชาชีพชั้นหนึ่ง ยกเว้นการทำคลอด

6.คลินิกกายภาพบำบัด ดำเนินการโดยผู้ประกอบวิชาชีพ ซึ่งเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขากายภาพบำบัด

7.คลินิกเทคนิคการแพทย์ ดำเนินการโดยผู้ประกอบวิชาชีพ ซึ่งเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาเทคนิคการแพทย์

8.คลินิกการแพทย์แผนไทย ดำเนินการโดยผู้ประกอบวิชาชีพ ซึ่งเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทย ประเภทเวชกรรมไทย

9.คลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ดำเนินการโดยผู้ประกอบวิชาชีพ ซึ่งเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์

และ 10.สหคลินิก จัดให้บริการตามคลินิกแบบที่ 1 ถึง 9 รวม 2 ลักษณะขึ้นไป ดำเนินการโดยผู้ประกอบวิชาชีพวิชาชีพใดวิชาชีพหนึ่งที่ให้บริการในสถานพยาบาลนั้น

การยื่นขอเปิดคลินิก หากเป็น กทม.ยื่นที่สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กระทรวงสาธารณสุข ส่วนภูมิภาคให้ยื่นที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โดยหากเป็นบุคลทั่วไป ใช้สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และใบรับรองแพทย์ ส่วนนิติบุคคล ใช้เอกสารจดทะเบียนนิติบุคคล สำเนาบัตรประชาชนผู้มีอำนาจลงนาม และใบรับรองแพทย์ของผู้มีอำนาจลงนาม นอกจากนี้ ต้องมีเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ของสถานที่ที่จะเปิดว่าเป็นของตนเอง เช่า หรือยินยอมให้ใช้พื้นที่ พร้อมสำเนาทะเบียนบ้านที่ตั้งคลินิก แผนผังภายในคลินิก และแผนที่การเดินทาง

เมื่อยื่นเปิดคลินิกเจ้าหน้าที่จะตรวจเอกสารหลักฐาน พร้อมความถูกต้อง ครบถ้วนของแบบฟอร์มต่างๆ และจะมีการนัดวันตรวจคลินิก ซึ่งเมื่อถึงวันนัด คลินิกต้องเสร็จเรียบร้อยพร้อมให้เข้าตรวจ ซึ่งหลังจากผ่านการตรวจแล้ว จึงจะได้รับใบประกอบกิจการสถานพยาบาล โดยจะมีค่าใช้จ่ายคือ ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล 1,000 บาท และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล 250 บาท และต้องชำระค่าธรรมเนียมเป็นประจำทุกปี ช่วง ต.ค.-ธ.ค. เป็นเงิน 500 บาท ถ้าเกินกำหนดต้องจ่ายค่าปรับเดือนละ 25 บาท

การต่ออายุใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาลจะต่ออายุทุก 2 ปี ค่าธรรมเนียม 250 บาท ส่วนการต่ออายุใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลจะต่ออายุทุก 10 ปี ค่าธรรมเนียม 1,000 บาท

โดยชื่อคลินิกต้องไม่ใช้คำหรือข้อความชักชวนหรือโอ้อวดเกินจริง ไม่สื่อความหมายหรืออ้างอิงสถาบันพระมหากษัตริย์ เว้นแต่ได้รับพระบรมราชานุญาต หรือพระราชานุญาต คลินิกที่ตั้งในอำเภอเดียวกัน หรือจังหวัดเดียวกัน จะต้องไม่ใช้ชื่อซ้ำกัน ยกเว้น ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลเป็นบุคคลหรือนิติบุคคลเดียวกัน