ฝนตกฟ้าปิด แต่ยังเห็นภาพประติมากรรมแสงเงา "ในหลวงรัชกาลที่ ๙" เหนือผนังอาคารศรีสังวาลย์ รพ.ศิริราช เผยเป็นภาพขณะทรงแย้มสรวล โน้มพระวรกายรับดอกบัวจากยายตุ้มเมื่อครั้งเสด็จนครพนมปี 2498 ชี้ เห็นภาพชัดเจนเฉพาะเวลา 15.52 น. อันเป็นช่วงสวรรคต ด้านประชาชนพร้อมใจเจริญจิตภาวนา
วันนี้ (13 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่โรงพยาบาลศิริราช ได้มีในตกลงมา ส่งผลให้ประชาชนที่มารอร่วมพิธีศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์ ต้องเข้าไปหลบฝนภายในอาคารต่างๆ ขณะที่กิจกรรมต่างเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ยังคงจัดขึ้นตามปกติ เช่น เวลา 14.45 น. ที่ศาลาศิริราช 100 ปี รพ.ศิริราช มีการจัดพิธีสวดพระพุทธมนต์ อุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสวดเจริญพระพุทธมนต์ ถวายพระพรชัยมงคล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์ บดินทรเทพยวรางกูร โดนคณะสงฆ์จากวัดอมรินทรารามวรวิหาร
ทั้งนี้ จากการที้ฝนตกลงมา ทำให้ฟ้าปิด กระทบต่อการจัดแสดงภาพประติมากรรมแสงเงา ซึ่งสร้างสรรค์โดย ดร.บุรินทร์ ธราวิจิตรกุล ผศ.กานต์ คำแก้ว และ ผศ.ดร.ยุทธนา ทองท้วม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งภาพประติมากรรมแสงเงาดังกล่าวมีเส้น๋านศูนย์กลาง 3 เมตร ติดตั้งอยู่บนผนังอาคารศรีสังวาลย์ โดยที่มาของภาพแสงเงามาจากพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ เมื่อครั้งเสด็จฯ จังหวัดนครพนม ปี 2498 ขณะกำลังโน้มพระองค์อย่างต่ำที่สุด จนพระพักตร์แนบชิดกับศีรษะของแม่เฒ่า คือ แม่ตุ้ม จันทนิตย์ วัย 102 ปี ที่ไปรอรับเสด็จ และถือดอกบัวสีชมพู 3 ดอก ที่โรยราจากการถูกแดดเผดเผาตั้งแต่เช้าถึงบ่าย โดยพระองค์ทรงแย้มพระสรวล พระหัตถ์แตะมือของแม่เฒ่าอย่างอ่อนโยน ทำให้หลายคนกังวลว่าแสงแดดจะออกหรือไม่ เพราะหากไม่มีแสงแดด ก็จะภาพได้ไม่ชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลา 16.00 น. ฟ้าเริ่มเปิดเล็กน้อย ทำให้พอเริ่มเห็นภาพประติมากรรมแสงเงา ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ อย่างลางๆ จนกระทั่งเวลา 16.10 น. แสงมีมากพอจนภาพประติมากรรมแสงเงาแสดงภาพพระพักตร์ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ขณะแย้มพระสรวลอย่างชัดเจน สร้างความปลาบปลื้มให้แก่ประชาชนโดยทั่วไป ที่ต่างนำโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพเก็บเอาไว้
อย่างไรก็ตาม ในเวลา 15.52 น. ยังคงจัดพิธีเจริญจิตภาวนา เนื่องจากเป็นช่วงเวลาสวรรคต โดยพสกพิกรทั่วทั้งบริเวณต่างร่วมกันตั้งจิตภาวนา ด้วยอาการสงบนิ่ง เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อปวงชนชาวไทย
นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช กล่าวว่า ภาพประติมากรรมแสงและเงาดังกล่าวเป็นฝีมือของอาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.เชียงใม่ ซึ่งเมื่อแสงแดดตกกระทบจะทำให้เกิดเงาทาบทับออกมาเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงรับดอกบังจากแม่ตุ้ม โดยจะเห็นชัดเจนในช่วงเวลา 15.52 น. โดยสามารถมองเห็นได้จากลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการพัฒนาเทคนิคภาพประติมากรรมแสงเงาดังกล่าว ให้สามารถสะท้อนภาพของพระองค์ออกมาในทุกเวลา เพราะพระอาทิตย์มีองศาที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัน จึงต้องอาจมีการปรับประติมากรรมให้สอดรับกับพระอาทิตย์ด้วย และอนาคตหากอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา แล้วเสร็จ ก็จะนำไปติดที่อาคารดังกล่าวแทน เพื่อให้ประชาชนสามารถเห็นได้ทุกวันทุกเวลา ซึ่งการที่มีกิจกรรมแสดงภาพประติมากรรมแสงเงาดังกล่าว เพื่อให้ทุกคนที่มองขึ้นมายังคงระลึกถึงพระองค์