กทม.จับมือมูลนิธิช่างไทยใจอาสาและภาคีเครือข่าย ดูแลสวนสาธารณะทั้ง 39 แห่งของ กทม. ทั้งความปลอดภัย บำรุงรักษาอาคาร อุปกรณ์ในสวน ดำเนินการ 1 ปี 16 ต.ค. 61 - 15 ต.ค. 62 โดยไม่ใช้งบประมาณ
วันนี้ (11 ต.ค.) นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวโครงการ “สวนสาธารณะ กทม.ปลอดภัย” โดยมี ดร.กมล ตรรกบุตร ประธานมูลนิธิช่างไทยใจอาสาและนายกสภาวิศวกร นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ร่วมแถลงข่าว
นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า สำนักงานสวนสาธารณะ สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. ร่วมกับมูลนิธินายช่างไทยใจอาสา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง สภาวิศวกร สภาสถาปนิก สมาคมช่างเหมาไฟฟ้าและเครื่องกลไทย จับมือกันร่วมดูแลบริภัณฑ์ทางไฟฟ้า อาทิ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เสาไฟฟ้า เครื่องเล่น และโครงสร้างต่างๆ ภายในสวนสาธารณะของกรุงเทพมหานคร ทั้ง 39 แห่ง เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนผู้เข้าใช้บริการสวน รวมถึงบำรุงรักษาอาคารและอุปกรณ์ต่างๆ ภายในสวนสาธารณะซึ่งจะเป็นการยืดอายุการใช้งานและลดอุบัติเหตุ สำหรับโครงการนี้มีระยะเวลาการดำเนินการ 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 61 - 15 ต.ค. 62 โดยกรุงเทพมหานครไม่ใช้งบประมาณแต่อย่างใด
นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า ปัจจุบัน กทม.มีพื้นที่สีเขียวประมาณ 38,000,000 ตารางเมตร เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดเล็กจำนวน 7,967 แห่ง กระจายอยู่ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ และเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่เป็นสวนสาธารณะ จำนวน 37 แห่ง และอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างอีก จำนวน 2 แห่ง ในพื้นที่เขตบางบอน และเขตบางแค รวมสวนสาธารณะทั้งสิ้น 39 แห่ง โดยสวนสาธารณะแต่ละแห่งมีพื้นที่จำนวนไม่น้อยกว่า 50 ไร่ มีประชาชนเข้าใช้บริการสวนสาธารณะในวันจันทร์-ศุกร์ ประมาณ 60,000-70,000 คน วันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ประมาณ 90,000 คน ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร มีเจ้าหน้าที่ดูแลสวนสาธารณะทั้งหมด จำนวน 1,471 คน เป็นช่างไฟฟ้า วิศวกร และสถาปนิกที่ดูแลสวนทั้งหมด ประมาณ 10 คน เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ
ทั้งนี้ นับเป็นโอกาสดีที่กรุงเทพมหานครได้รับอนุเคราะห์ความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายเข้าร่วมโครงการ เพื่อเข้ามาช่วยดูแลอุปกรณ์ไฟฟ้า และโครงสร้างอาคารต่างๆ ภายในสวน ซึ่งสิ่งสำคัญในการเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนได้มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ผ่อนคลายภาวะตึงเครียดจากการทำงาน อีกทั้งยังช่วยแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมเนื่องจากมีต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวนมาก ทั้งนี้ ในนามของกรุงเทพมหานครขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนชาวกรุงเทพมหานครอย่างสูงที่สุด