xs
xsm
sm
md
lg

อันตราย พ่อให้ลูกน้อยดูด “น้ำกระท่อม” หมอเตือนกระทบสมอง เสี่ยงอาการจิตเวช เข้าข่ายทารุณกรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กรมอนามัย ชี้ให้ลูกเล็กดูด “น้ำกระท่อม” อันตราย เข้าข่ายทารุณกรรมเด็ก เหตุมีสารเสพติด “ไมทราไจนีน” ส่งผลเสียต่อสมองและร่างกายที่กำลังเจริญเติบโต ย้ำเด็กเล็ก 0-6 เดือน ควรรับนมแม่อย่างเดียว

จากกรณีสื่อสังคมออนไลน์แชร์รูปเด็กเล็กวัยไม่กี่เดือนกำลังนอนดูดน้ำกระท่อม โดยพ่อของเด็ก ได้โพสต์ว่า ต้องเลือกระหว่าง ยาบ้า กับน้ำกระท่อม โดยอ้างว่า เด็กมันร้องอยากกินน้ำ

พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย และ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า เรื่องนี้หากเป็นเรื่องจริงถือเป็นการเลี้ยงลูกที่ไม่ถูกต้องและเป็นอันตรายสำหรับเด็ก เพราะการให้เด็กเล็กได้รับสารเสพติดหรือสารที่เป็นพิษ สามารถจัดได้ว่าเป็นการทารุณกรรมและละเมิดสิทธิเด็กรูปแบบหนึ่ง และกฎหมายไทยจัดให้กระท่อมอยู่ในกลุ่มยาเสพติดประเภทที่ 5 ใบของต้นกระท่อมจะมีสารเสพติดชื่อ “ไมทราไจนีน” ซึ่งมีฤทธิ์ต่อสมองคล้ายฝิ่น เป็นผลเสียต่อสมองและร่างกายที่กำลังเจริญเติบโตของเด็ก และยังส่งผลอาจทำให้เกิดอาการทางจิตเวชได้ รวมไปทั้งเกิดความบกพร่องทางสติปัญญา ดังนั้นจึงไม่ควรให้รับประทานอย่างเด็ดขาด

“การเลี้ยงดูเด็กไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ที่ดูแลลูกด้วยตนเอง หรือพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือในกลุ่มผู้เลี้ยงดูเด็กที่ไม่ใช่พ่อแม่ จึงจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยทารก 0-6 เดือน ควรได้กินนมแม่อย่างเดียวถึง 6 เดือน และควรให้กินจากเต้าเพื่อสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก ซึ่งในน้ำนมแม่ถือเป็นอาหารที่มีคุณค่าที่สุดสำหรับลูกมีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด ที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต พัฒนาสมอง จอประสาทตา ทำให้เด็กสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยนมแม่ในระยะ 1-7 วันแรก จะมีหยดน้ำนมที่เรียกว่า หัวน้ำนมหรือโคลอสตรัม ถือเป็นยอดอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารครบถ้วน อีกทั้งเป็นช่วงที่น้ำนมแม่มีภูมิคุ้มกันสูงสุด เด็กควรได้กินหัวน้ำนมเพราะเปรียบเสมือนได้รับวัคซีนหยดแรกของชีวิต” พญ.อัมพร กล่าว

พญ.อัมพร กล่าวว่า เด็กแรกเกิดจะยังไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเองได้ ทารกที่ได้ดื่มนมแม่ จึงมีภูมิต้านทานในการต่อต้านเชื้อโรค และช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ เช่น การติดเชื้อของระบบทางเดินอาหาร การติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ ลดภาวะเสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้ หอบหืด หูอักเสบ เป็นต้น จากนั้นเมื่อเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป ระบบย่อยและดูดซึมอาหารพัฒนาได้ค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว จึงให้เริ่มกินอาหาร ที่เหมาะสมตามวัย เช่น กล้วยน้ำว้า ไข่แดง ข้าว ผัก ผลไม้ และสารอาหารอื่นๆ ควบคู่กับการกินนมแม่ต่อเนื่องไปจนถึงอายุอย่างน้อย 2 ขวบ ซึ่งอาหารตามวัยที่ดีและมีประโยชน์จะส่งผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดีของเด็กตามมาด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น