xs
xsm
sm
md
lg

กทม.จ่ายค่าน้ำไฟ “หอศิลป์” รวมกว่า 9 ล้าน ยันจ่ายให้ถึงสิ้นปี 62 จ่อหารือ 1 ต.ค.แก้ไขสัญญาโอนสิทธิ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กทม.ยันไม่บริหาร “หอศิลป์” เอง ให้มูลนิธิฯ บริหารจนครบสัญญาปี 64 ย้ำไม่ได้ตัดงบ แต่ติดขัดกฎหมาย หลังโครงการที่หอศิลป์เสนอเข้าข่ายค่าใช้จ่ายที่ต้องจัดการเอง แต่ยังช่วยเรื่องค่าน้ำค่าไฟ ระบุ ปี 61 จ่ายไปกว่า 9 ล้านบาท เดินหน้าจ่ายให้จนสิ้นปีงบ 62 เตรียมหารือแนวทางแก้ไขสัญญาโอนสิทธิ 1 ต.ค.นี้

จากกรณีเครือข่ายศิลปินออกมาประท้วงกรณีกรุงเทพมหานคร (กทม.) ตัดงบประมาณหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร จนหอศิลป์ ระบุว่า จะถูกตัดน้ำตัดไฟ และต้องมีมาตรการรัดเข็มขัด จนอาจกระทบกับการจัดงานและนิทรรศการต่างๆ ได้ ขณะที่เครือข่ายศิลปินมองว่า กทม.ตัดงบประมาณ และตั้งคณะกรรมการสรรหาคณะกรรมการมูลนิธิหอศิลป์ ที่มาจากทหาร เพื่อจ่อฮุบบริหารหอศิลป์ เอง

วันนี้ (27 ก.ย.) นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า กทม.ยืนยันว่า ไม่มีแนวคิดนำหอศิลป์ มาบริหารเอง เพราะเป็นราชการอาจไม่คล่องตัว จึงให้เอกชนเข้ามาบริหาร ซึ่งยังคงเป็นมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยสัญญาการให้สิทธิตัวอาคารหอศิลป์ จะสิ้นสุดในปี 2564 ทั้งนี้ หลังจากที่สภา กทม.ไม่อนุมัติงบประมาณให้หอศิลป์ กทม.ได้ตั้งงบ 40 ล้านบาทช่วยเหลือ ผ่านไปยังสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ในหมวดงบรายจ่ายอื่น แล้วให้หอศิลป์เสนอโครงการเข้ามา ซึ่งยืนยันว่า เราไม่ได้ตัดงบ แต่ติดขัดข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องเงินอุดหนุนของกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2560 ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาว่า หลายโครงการที่หอศิลป์ เสนอมา ส่วนใหญ่เข้าข่ายตามสัญญาการให้สิทธิในข้อ 8 คือ ค่าใช้ที่เกิดจากการบริหารจัดการหอศิลป์ เป็นความรับผิดชอบของผู้รับสิทธิ คือ มูลนิธิหอศิลปฯ คณะกรรมการจึงไม่อนุมัติตามที่ขอ และได้อนุมัติเพียงรายจ่ายที่เป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ประมาณ 9 ล้านบาท

นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับข้อกังวลของกลุ่มเครือข่ายศิลปินและประชาชนที่ว่าจะได้รับผลกระทบต่อการจัดกิจกรรม การแสดงนิทรรศการต่างๆ เพราะอาจถูกตัดน้ำตัดไฟ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ได้สั่งการให้สำนักวัฒนธรรมฯ ดูแลให้ความช่วยเหลือเรื่องนี้ไปจนสิ้นสุดปีงบประมาณ 2562 ส่วนกรณีที่ระบุว่า กทม.ไม่สนับสนุนงบประมาณในปี 2562 หรือตัดงบของหอศิลป์ออกนั้น ยืนยันว่า ฝ่ายบริหาร กทม.ได้เสนอของบประมาณไปยังสภา กทม.รวมถึงมีการแปรญัตติเพื่อขอจัดสรรงบประมาณในส่วนนี้ แต่สภา กทม.ไม่พิจารณา เนื่องจากติดขัดเรื่องข้อบัญญัติ กทม.เรื่องเงินอุดหนุน รวมถึงไม่สอดคล้องกับสัญญาการให้สิทธิในข้อที่ 8

เมื่อถามถึงข้อสงสัยว่า กทม.ยังไม่แก้ไขสัญญาการให้สิทธิในข้อ 8 นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า แม้สัญญาจะผ่านการลงนามไปแล้ว แต่หากภายหลังพบว่ามีข้อจำกัดหรือมีปัญหาสามารถแก้ไขได้ แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการร้องขอจากมูลนิธิหอศิลปฯ เพื่อแก้ไขสัญญาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ กทม. จะเชิญคณะกรรมการมูลนิธิหอศิลป์มาประชุมหารือ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา ขณะเดียวกัน คณะกรรมการวิสามัญศึกษาการดำเนินงานของหอศิลป์อยู่ระหว่างรวบรวมผลการศึกษา เพื่อหาทางออกเรื่องนี้เช่นเดียวกัน

เมื่อถามถึงข้อสังเกตการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการมูลนิธิหอศิลปฯ ชุดใหม่ โดยครึ่งหนึ่งเป็นทหารยศนายพล นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า รายชื่อคณะกรรมการสรรหาดังกล่าวเป็นเพียงการทาบทาม ยังไม่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม มองว่า ทุกคนที่มีรายชื่อเสนอชื่อเข้ามานั้นย่อมมีความรู้ความสามารถอยู่แล้ว

เมื่อถามถึงหอศิลป์ทำหนังสือถึงสำนักวัฒนธรรมฯ ขอกันงบ 30 ล้านบาทที่เหลือไปใช้ในปี 2562 นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า ไม่สามารถทำได้ เพราะหากใช้งบประมาณไม่หมด ก็ต้องตัดสู่งบกลาง

เมื่อถามว่า หลังสิ้นสุดสัญญาปี 2564 กทม.จะบริหารเองหรือไม่ นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า กทม.ยืนยันว่าจะไม่บริหารเอง เพราะเป็นราชการ ต้องให้เอกชนเข้ามาบริหาร ซึ่งก็อาจยังเป็นมูลนิธิฯ หรือผู้เชี่ยวชาญในด้านงานศิลป์เข้ามาบริหาร

นายเฉลิมพล โชตินุชิต ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กล่าวว่า เงินที่นำมาจ่ายค่าน้ำค่าไฟนั้น ก็เป็นงบหมวดรายจ่ายอื่น ของสำนักวัฒนธรรมฯ ซึ่งเรามีการจ่ายให้มาโดยตลอด เพราะเป็นเรื่องของสาธารณประโยชน์ ก็ไม่คิดว่าเขาจะเอาเรื่องนี้มาว่าจะไม่จ่ายค่าน้ำค่าไฟ และทำให้เดือดร้อน ส่วนอื่นๆ คงต้องรอการหารือในส่วนของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องว่าจะมีการแก้ไขสัญญากันอย่างไร เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้โดยไม่ติดขัด



กำลังโหลดความคิดเห็น