xs
xsm
sm
md
lg

กระดาษดูดซับเอทธีลีนจาก “เปลือกสับปะรด” ช่วยยืดอายุ “กล้วยไม้” ส่งออก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


มทร.ธัญบุรี นำเปลือกสับปะรดเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรม พัฒนาเป็นกระดาษดูดซับเอทธีลีน ช่วยยืดอายุ “กล้วยไม้ส่งออก” ชี้ ใช้กับพืชเศรษฐกิจได้อีกมาก ทั้งมะม่วง ทุเรียน เหตุผลไม้ผลิตเอทธีลีนสูง ทำเสื่อมสภาพเร็ว

ผศ.ดร.วรินธร พูลศรี นักวิจัยและอาจารย์คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี กล่าวว่า ดอกกล้วยไม้ เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีการส่งออกสูงสุดในโลก แต่จะมีอายุการเก็บรักษาสั้นเมื่อส่งถึงปลายทาง จึงได้คิดค้นวิธีในการยืดอายุกล้วยไม้ส่งออก ซึ่งเห็นว่า เปลือกสับปะรด ซึ่งเป็นขยะเหลือทิ้งจำนวนมากจากอุตสาหกรรมอาหาร และทำให้เกิดปัญหาด้านมลภาวะสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ สามารถนำมาทำเป็นกระดาษดูดซับเอทธีลีน เพื่อยืดอายุกล้วยไม้ได้ เนื่องจากใยสับปะรดเมื่อนำมาแยกแล้วมีรูพรุนมาก มีน้ำหนักเบา ไม่เพิ่มมูลค่าในการขนส่ง และต้นทุนต่ำมากกว่ากรรมวิธีการอื่น

ผศ.ดร.วรินธร กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนนำเปลือกสับปะรดที่เหลือทิ้งมาแยกให้เหลือเป็นใยสับปะรดแล้ว จากนั้นนำมาขึ้นรูปเป็นแผ่นกระดาษ นำมาผสมสารเคมี แล้วผึ่งให้แห้ง นำกระดาษที่ได้ไปใส่ในกล่องบรรจุภัณฑ์กล้วยไม้สำหรับส่งออก จากการทดลองการขนส่งดอกกล้วยไม้ยืดอายุในการเก็บรักษาได้ประมาณ 18 วัน ดังนั้น ถ้าสามารถบรรจุกระดาษดูดซับเอทธีลีนลงไปในกล่องเพื่อการส่งออก จะสามารถช่วยรักษาอนุภาพของผลิตผลได้ดีกว่าการขนส่งปกติ และเป็นการเพิ่มมูลค่าจากสิ่งที่เรียกว่าขยะ

“งานวิจัยนี้ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับพืชเศรษฐกิจได้อีกหลายชนิด เช่น มะม่วง ทุเรียน เนื่องจากพืชเศรษฐกิจส่วนใหญ่มีการผลิตเอทธีลีนสูง ส่งผลไม้ให้เกิดการเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ดังนั้น ถ้าสามารถบรรจุกระดาษดูดซับเอทธีลีนลงไปในกล่องเพื่อการส่งออก จะสามารถช่วยรักษาคุณภาพของผลิตผลได้ดีกว่าการขนส่งปกติ โดยผลงานกระดาษดูดซับเอทธีลีน จากเปลือกสับปะรด ได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณ โครงการประกวดผลงานวิจัยนวัตกรรม (The 8tj Innovation Awards 2018) จัดโดยสถาบันวิจัยและพัฒนา มทร.ธัญบุรี ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คณะเทคโนโลยีการเกษตร โทร. 0-2592-1955 ต่อ 2029” ผศ.ดร.วรินธร กล่าว



กำลังโหลดความคิดเห็น