xs
xsm
sm
md
lg

กทม.แจงไม่มีอำนาจออกใบอนุญาต “ร้านสัก” แต่มีหน้าที่ตรวจสอบร้านเถื่อน เผยทั่วกรุงมีร้านถูก กม.50 แห่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“อัศวิน” แจง กทม.ไม่มีอำนาจออกใบอนุญาตร้านสัก เป็นหน้าที่ของ สธ. แต่มีหน้าที่ตรวจสอบเป็นร้านสักเถื่อนหรือไม่ รองปลัด กทม.เผย ทั่วกรุงมีร้านสักถูกกฎหมาย 50 ร้าน

วันนี้ (3 ก.ย.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงผลประชุมคณะผู้บริหาร กทม. ถึงกรณีข่าวหญิงสาวสักลายที่ร้านสักย่านตลาดคลองหลอด แล้วติดเชื้อเอชไอวีเสียชีวิต ว่า การอนุญาตเปิดกิจการเป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการออกใบอนุญาตและตรวจสอบเกณฑ์มาตรฐาน ส่วน กทม.มีอำนาจในการตรวจสอบร้านสักที่ตั้งภายในอาคาร ว่า มีใบอนุญาตหรือไม่ โดยการตรวจสอบส่วนนี้มอบหมายให้แต่ละสำนักงานเขตเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนร้านเถื่อน ปูเสื่อ ตั้งอยู่บนทางเท้า กทม. สามารถใช้อำนาจ พ.ร.บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเมือง พ.ศ. 2535 ดำเนินการตักเตือน สั่งปรับเท่านั้น อย่างไรก็ตาม จะขอศึกษารายละเอียดอีกครั้ง ส่วนการเปิดร้านรับสักลาย สักคิ้ว หรือสักตา ที่เปิดตามตลาดนัดในพื้นที่กรุงเทพฯ จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยมากที่สุด

“ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตมาจากร้านสักลายหรือไม่นั้น ไม่อยากให้รีบด่วนสรุป ทาง สธ.จะต้องลงไปสอบสวนข้อเท็จจริง สอบสวนโรคให้แน่ชัด อาทิ จุดสุดท้ายของผู้เสียชีวิต ประวัติการเจ็บป่วย เป็นต้น” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว

พญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัด กทม. กล่าวว่า ตนมอบหมายหน่วยงานสังกัด กทม. ประกอบด้วย กองควบคุมโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อเพศสัมพันธ์ สำนักอนามัย สำนักงานเขตพระนคร ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาลเขต ติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดทีมลงพื้นที่ตรวจสอบร้านสัก บริเวณคลองหลอดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีข้อมูลรายงานว่า ร้านสักที่ได้รับใบอนุญาตเกี่ยวกับกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตามประกาศกฎกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2558 ในพื้นที่เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร มีจำนวนร้านสักที่ได้รับใบอนุญาตเพียง 17 ร้านเท่านั้น ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ มีร้านสักที่ได้รับอนุญาต รวมทั้งสิ้น 50 ร้าน

“แม้จะมีกฎกระทรวง สธ.ดูแล แต่อำนาจการตรวจสอบร้านสักเถื่อนนั้น เป็นของเจ้าพนักงาน กทม. ซึ่งแต่ละเขตจะต้องเข้าไปดูแล กวดขัน ดำเนินการตามกฎหมาย หากไม่พบใบอนุญาตจะมีบทลงโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท และจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ยกเว้นกิจการที่อยู่ในความดูแลของแพทย์และพยาบาล มองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดีทำให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องดังกล่าวมากขึ้น ครอบคลุมถึงการสักคิ้วที่นิยมมากในปัจจุบัน” พญ.วันทนีย์ กล่าวและว่า การสัก หรือกิจการที่ใช้เข็มจิ้มจนเกิดเลือด ต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ความสะอาด โดยเครื่องมืออุปกรณ์ต้องผ่านฆ่าเชื้อและทำความสะอาด ส่วนเข็มต้องเปิดบรรจุภัณฑ์ใหม่ โดยผู้บริโภคสามารถตรวจสอบร้านสักด้วยตนเอง ด้วยการขอดูใบอนุญาตประกอบกิจการกับทางร้านได้


กำลังโหลดความคิดเห็น