ความเข้าใจในตัวเองเป็นเหตุผลแรกที่ทำให้คนสมัยนี้นิยมที่จะพัฒนาตัวเองเพื่อให้รู้ว่าจริง ๆ แล้ว ตัวตน และความต้องการของตนคืออะไรกันแน่ บางท่านเลือกที่จะเข้าอบรมสัมมนาพัฒนาชีวิต บางคนไปนั่งปฏิบัติธรรม อยู่เงียบ ๆ บางคนเสียเงินเป็นแสนเพื่อคอร์สพัฒนาตน
ลองฉุกคิดดู ทำให้รู้ว่า นั่นแสดงให้เห็นว่า คนสมัยนี้ล้วนต้องการแสวงหาสิ่งที่เป็นเรื่องจริง สัจธรรม และตัวตนของตนเอง เพราะสังคมสมัยนี้อยู่ด้วยการคาดคะเนเป็นส่วนใหญ่ อยู่ด้วยการกะเอาว่าจะดี น่าจะสุข น่าจะทุกข์
บ่อยครั้งเรามักคิดกะไปเองว่า ถ้ามีบ้านสวย ๆ ใหญ่ ๆ หรู ๆ ได้มีหน้าตาในสังคม ชีวิตคงมีความสุขมาก และหลายครั้ง เราทึกทักไปเองว่า คนหน้าตาแบบนั้น แสดงว่าเป็นแบบนี้ หน้าแบบนี้ตัวโกง หน้าแบบโน้นคือนางเอก เมื่อทำสิ่งนี้ มันจะต้องทำสิ่งนั้นต่อไปแน่ ๆ
การกะเอานี่แหละค่ะ ทำให้เราพลาดที่จะเรียนรู้ ลืมที่จะสังเกต นักวิทยาศาสตร์แต่ละคนเราก็เห็นแล้วว่าที่คิดทฤษฎีที่น่าทึ่งขึ้นมาได้ เพราะเริ่มแรกเกิดจาก การทำตัวว่างเปล่า เป็นกลาง ๆ ไม่ยึดมั่นถือมั่น การไม่ยึดติดว่าโลกมันต้องแบน ทำให้สามารถหาตรรกะ และข้อมูลที่พิสูจน์ได้ว่าโลกกลมในที่สุด ทั้งนี้เราก็ไม่ควรจะยึดติดแบบไม่ฟัง ไม่สนว่าโลกมันจะกลมแบบนี้ตลอดไปชั่วกัลปาวสาน ตามที่ ไอน์สไตน์ หรือ สตีเฟน ฮอว์กิงได้เคยกล่าวสอนไว้มาเสมอว่า "ความจริงคือสิ่งที่ต้องเรียนรู้ศึกษา การยึดมั่นถือมั่น และอัตตา ทำให้ตรรกะแย่ลง"
เป็นไปได้ไหมว่า คนเราอาจไม่ได้ต้องการสวยมาก รวยมาก เก่งมาก หรือดังมาก แต่แท้ที่จริงที่พยายามดิ้นรนสิ่งเหล่านี้ เพื่อต้องการให้ได้พบปัจจัยภายนอกที่ดี ๆ เช่น ผู้คนยอมรับ พูดดี ให้เกียรติ กล่าวชม มีความคล่องตัว อยากทำอะไรไม่ต้องพะวงมากมาย แล้วก็กะว่าชีวิตน่าจะร่มเย็นเป็นสุข
ซึ่งในทางกลับกัน เราสามารถดำเนินชีวิตของเราให้สุขกาย สบายใจได้ โดยเข้าใจสักนิดว่าชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ และดำเนินไป พบเจอปัญหาก็หาทางแก้กันไป ลดความกังวลด้วยการคิดที่ช่วยเสริมกำลังใจเราเอง ทำพลาดก็เริ่มต้นใหม่ เจอคนไม่ดี ก็ให้อภัยและละเว้นการไปนึกถึง ไม่ต้องกระโชกกระชาก ร่ำร้อง เอาอะไรมากมายกับชีวิต สังเกตดูดี ๆ คนที่ใช้ชีวิตเหล่านี้ มักจบท้ายด้วยความสำเร็จเสมอ ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาโอลิมปิก นักวิทยาศาสตร์ นักธุรกิจ ที่ภายหลัง สังคมหันไปสนใจในความสำเร็จของพวกเขาเหล่านั้นเอง แต่ทั้งนี้ใช่ว่าเมื่อมีชื่อเสียงได้รับความสนใจมาก ๆ แล้ว คนเหล่านี้จะหยุดการฝึกความคิด ทุกคนก็มนุษย์ธรรมดานี่เอง ที่ต้องคิดพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ
ชีวิตมี ต้องดำเนินต่อไป หนังสือหรือคำสอน แต่งอย่างไรก็ได้ให้อ่านแล้วจับใจ การทำคอร์สสัมมนา เราก็ไปฟังเพื่อศึกษาเจอสิ่งใหม่ หากอยากไป แต่อย่าไปคาดหวังยึดติดมากว่าจะมาเปลี่ยนชีวิต
บทเรียนชีวิตแต่ละวันที่เราเองต้องข้ามผ่านนั่นแหละ ที่เป็นการฝึกฝนชั้นดี ที่จะทำให้ตัวเรา เมื่อล้มแล้วตั้งตนขึ้นมาอย่างเข้มข้น จะสามารถมีความคิดที่แข็งแกร่ง ตรรกะชัดเจน และเราจะยืนยัดอยู่ในโลกใบนี้ได้อย่างร่มเย็นจริง ๆ ค่ะ
ครูฮ้วง
-----------------
ครูฮ้วง-เสาวลักษณ์ ลี้รุ่งเรืองพร เจ้าของสถาบัน Campus Genius Center ผู้สอนหลักสูตรติวเข้มเพื่อการสอบ SAT ด้วยแนวคิดแบบ Critical Thinking ที่ช่วยให้นักเรียนสามารถยื่นคะแนนเข้าเรียน และประสบความสำเร็จในการเรียนคณะอินเตอร์ทั้งในและต่างประเทศ