รพ.พระรามเก้า ประกาศรีแบรนด์ เดินหน้าเป็น คอมมูนิตีด้านสุขภาพ รักษาแบบองค์รวม ส่งเสริมสุขภาพ ตรวจประเมินโรค บริการด้านไลฟ์สไตล์ ควัก 2,000 ล้านบาทสร้างอาคารใหม่ ปรับปรุงอาคารปัจจุบัน เพิ่มจำนวนเป็น 313 เตียงในอีก 4 ปี พร้อมปรับโลโก้ใหม่ชูทันสมัย เป็นมิตรมากขึ้น
วันนี้ (21 ส.ค.) โรงพยาบาลพระรามเก้า แถลงข่าวประกาศปรับภาพลักษณ์องค์กร (Rebranding) โดยนพ.เสถียร ภู่ประเสริฐ รองประธานกรรมการ และกรรมการผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า รพ.พระรามเก้า มีจุดแข็งหลายเรื่อง ทั้งการมีศูนย์การแพทย์จำนวนมาก เช่น สถาบันโรคไตและเปลี่ยนไต สถาบันหัวใจและหลอดเลือด ศูนย์เบาหวานและเมตาบอลิก การรักษาโรคซับซ้อนด้วยทีมสหวิชาชีพ มีอุปกรณ์และเทคโนโลยี ตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่และศูนย์รวมการเดินทางของกรุงเทพฯ ได้รับความนิยมจากกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและเข้ามาลงทุน เช่น พม่า กัมพูชา ญี่ปุ่น และจีน ขณะที่ตลาดด้านสุขภาพยังเติบโตได้อีก รวมถึงการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ อัตราการเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากโรคร้ายแรงจากรูปแบบการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้องที่เพิ่มขึ้น รพ.พระรามเก้า จึงต้องปรับการดำเนินการเพื่อให้สอดรับกับเรื่องเหล่านี้
นพ.สุธร ชุตินิยมการ รองกรรมการผู้อำนวยการ (ฝ่ายบริหาร) รพ.พระรามเก้า กล่าวว่า การปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจ จะปรับจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิที่ดูแลผู้ป่วยซับซ้อน ไปสู่การดูแลสุขภาพและการรักษาพยาบาลแบบองค์รวมไร้รอยต่อ เพื่อเป็นคอมมูนิตีสำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพใจกลางเมือง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของทุกคน แบ่งเป็น 5 กลยุทธ์ คือ 1.ขยายเครือข่ายพันธมิตรและความร่วมมือทางการแพทย์ ซึ่งปัจจุบันมีโรงพยาบาลพันธมิตร 9 แห่ง กระจายในภูมิภาค ทั้งสงขลา ยะลา ปัตตานี จันทบุรี ตรัง อุบลราชธานี ชุมพร และนครสวรรค์ โดยจะส่งต่อผู้ป่วยโรคไตมาที่ รพ.พระรามเก้า
2.การสร้างอาคารใหม่ 16 ชั้น งบประมาณกว่า 2,000 พันล้านบาท ภายใต้แนวคิด Co-Healthy Space รองรับการขยายบริการและจำนวนผู้ใช้บริการ โดยจะเป็นศูนย์รวมทางการแพทย์ที่มีเครื่องมือทันสมัย ให้บริการระดับพรีเมียม ทั้งด้านการดูแลสุขภาพ รักษาพยาบาล และบริการด้านไลฟ์สไตล์ เช่น ร้านค้าเพื่อสุขภาพและความงาม จัดแสดงนิทรรศการเพื่อส่งเสริมสุขภาพและ Co-working Space คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ของปี 2562 และจะปรับปรุงอาคารปัจจุบันให้ทันสมัยและรองรับผู้ป่วยมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยโรคซับซ้อนและภาวะวิกฤต คาดว่า จะเพิ่มจำนวนเตียงจาก 166 เตียงเป็น 313 เตียงในปี 2565
3.ขยายขอบเขตการให้บริการ เน้นส่งเสริมสุขภาพ ตรวจหาโรค ประเมินความเสี่ยง ลดความเสี่ยง และการบำบัดฟื้นฟู โดยจะจัดตั้งศูนย์สุขภาพเส้นผม ศูนย์ผิวหนังและศัลยกรรมความงาม ศูนย์รักษาอาการปวดและเวชศาสตร์ฟื้นฟู ศูนย์ตรวจสุขภาพครบวงจร การดูแลผู้ป่วยมะเร็งแบบองค์รวม 4.เดินหน้าสู่การเป็นโรงพยาบาลดิจิทัล โดยใช้เทคโนโลยีมาบูรณาการ เพิ่มประสิทธิภาพการบริการ อำนวยความสะดวก และความปลอดภัย อยู่ระหว่างศึกษาและพัฒนานวัตกรรมเพื่อประยุกต์ใช้ในการวินิจฉัยและติดตามการรักษาผู้ป่วย และ 5.มุ่งเน้นการตลาดเชิงรุกและการปรับภาพลักษณ์องค์กร โดยโลโก้ใหม่ได้มีการปรับสีให้มีความทันสมัยและเป็นมิตรขึ้น โดยที่ยังไม่สูญเสียเอกลักษณ์ดั้งเดิม ด้วยการใช้รูปทรงที่ไหลมาบรรจบและตัดขวางกัน เพื่อสื่อถึงการผสานพลังของเครื่อข่ายพันธมิตรทางการแพทย์และความเป็นคอมมูนิตี
นพ.สุธร กล่าวว่า รพ.พระรามเก้า มีผลประกอบการแต่ละปี ดังนี้ ปี 2558 มีรายได้รวม 1,996.4 ล้านบาท ปี 2559 มีรายได้ 2,272.5 ล้านบาท และปี 2560 มีรายได้ 2,455.2 ล้านบาท อัตราเติบโตเฉลี่ยแบบทบต้น (CAGR) ร้อยละ 10.9 ต่อปี ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2561 มีรายได้รวมอยู่ที่ 653.3 ล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ 15.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560