ปลุกพลังการคิดชีวิตเปลี่ยน โดย ครูฮ้วง

"Once we accept our limits, we go beyond them." --- Albert Einsteins

"คนมากความรู้แต่ไร้ปัญญา" คำพูดนี้เป็นความคิดที่น่ากลัว ที่ตัวครูฮ้วงเอง พยายามเลี่ยงไม่ให้เป็นไปตามนี้ เพราะที่บ้านมักจะเตือนเสมอตอนเด็ก ๆ ว่า หัดออกไปใช้ชีวิตบ้าง อย่ามัวแต่งมกับหนังสือ คิดจะเอาแต่เรียนหนังสือสูง ๆ แต่ใช้ชีวิตไม่ดี คิดอะไรไม่ถ่องแท้ หาทางออกไม่ได้ ก็ไร้ประโยชน์

แต่ก็จริงนะคะ อุตสาห์เรียนมาแทบตาย ตาสั้นตายาวก็เพราะเรียนหนังสือ หากชีวิตดำเนินไปสะดุดและแก้ไม่ได้นี่เรียนเสียของมาก ดังนั้นก็ลองปรับดูค่ะ และเมื่อได้ใช้ชีวิต ไปเรียนต่อ ทำงาน พบปะผู้คน ก็พบว่าตัวเองไม่ชอบการร่อนเร่พเนจรไม่เก่งเล่ห์เหลี่ยม ชอบใช้ชีวิตนิ่ง ๆ เงียบ ๆ อ่านสูตรลัด สอนหนังสือ ซึ่งกระแสความคิดชวนให้ท้าทายตลอด ว่าเอ้ย เรานี่ไม่ชอบโลดโผน ไม่ชอบพูดคำหยาบ ไม่ซิ่ง ไม่ซ่า เราจะกลายเป็นป้าแก่ ดูไม่ตามสมัยมั้ย

แต่อย่างไรก็ตาม หลาย ๆ ครั้งได้พบว่า ความเข้าใจในข้อจำกัดของตัวเอง ก็ยิ่งทำให้ตัวเองพบทางสว่างของชีวิตขึ้นเรื่อย ๆ

การเป็นคนคิดเก่ง ใช้เหตุผลในการตัดสินใจ หรือมี Critical Thinking จะทำให้เราเป็น คนเป็นมีตรรกะในการเลือกทางชีวิต ชีวิตไม่โดดขึ้น หรือดิ่งลงมากจนรับไม่ได้ เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นหากเป็นปัญหา แทนที่จะนั่งตกใจ ซึมเศร้า เราต้องกระโดดออกจากพันธนาการแห่งความเคยชิน หลบเลี่ยงกับดักความคิด และทิฐิด้านความคิด ออกมาหาสาเหตุจากความจริงที่เกิดขึ้นให้ได้ เช่น

เด็กที่โตมากับพ่อแม่ที่เรียนเก่ง เรียนสูงทั้งคู่ มีโอกาสที่จะหลงกับดักความคิดว่าตนเองเป็นคนเรียนเก่ง ไม่มีปัญหาต้นทุนมาดี อยู่ไปวัน ๆ ก็พอ ซึ่งหารู้ไม่ว่า การเรียนเก่ง สอบได้ที่เรียนดี ๆ ชีวิตจะสำเร็จได้ ต้องฟันฝ่า มีวินัย อดทน อดตาหลับขับตานอน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดคำพูดว่า "ลูกไม้ลูกนี้ทำไมหล่นไกลต้นจัง" "พ่อสอนเลขทำไมลูกตกเลข" "แม่เพอร์เฟกต์ แต่ลูกไม่ได้สักเสี้ยว"

ในขณะที่เด็กอีกคนหนึ่งเกิดมาจากครอบครัวพ่อแม่เรียนน้อยทั้งคู่ แต่พ่อแม่บากบั่นทำงานจนมีเงินส่งลูกเรียนสูง ๆ และพร่ำสอนมาตลอดถึงความสำคัญเรื่องการเรียนให้ อดทน ต่อสู้ และขยัน เด็กได้เห็นความอดทนพ่อแม่ ได้เห็นการเสียโอกาสทางศึกษาของพ่อแม่ ก็เกิดความคิด พอฝึกคิดทุกวัน ผสมกับการปลูกฝังเรื่องวินัย ไปเรียนไม่ลาสายขาด ไม่ใจเสาะป่วยง่าย

ที่สุดท่านผู้อ่านน่าจะพอเดาออกว่าเด็กคนไหนจะมีชีวิตที่ก้าวหน้ากว่ากัน ในวิธีคิดที่ไม่เหมือนกัน

ความคิดคือรากฐานการใช้ชีวิต ติดตัวมนุษย์ทุกวัน เพราะความคิดเป็นตัวกระตุ้นพฤติกรรม คิดดีบ่อย ๆ สักวันพฤติกรรมมันก็แสดงออกมาดี บางคนพูดดี แต่คิดไม่ดี ในที่สุดพฤติกรรมก็ออกมาดีไม่ได้สักที

ตัวครูฮ้วงจึงเชื่อเสมอค่ะว่า Critical Thinking มีความสำคัญมากที่จะทำให้นักเรียนเปลี่ยนพฤติกรรม จากคนไม่รักเรียน มาเป็นเรียนอย่างมีใจ ใส่ใจ และมีวินัย ดังนั้นทุกครั้งที่สอนหนังสือเราจะพยายามหาเนื้อเรื่องให้เด็กอ่าน และให้เค้าได้ฉุกคิดถึงชีวิตเค้าว่าตอนนี้มาถึงไหนแล้ว

แล้วท่านผู้อ่านล่ะคะ ตอนนี้ชีวิตมาถึงไหนแล้ว ความคิดตอนนี้แข็งแรงขนาดไหน?

พบกันทุกสัปดาห์นะคะ
ครูฮ้วง

-----------------

ครูฮ้วง-เสาวลักษณ์ ลี้รุ่งเรืองพร เจ้าของสถาบัน Campus Genius Center ผู้สอนหลักสูตรติวเข้มเพื่อการสอบ SAT ด้วยแนวคิดแบบ Critical Thinking ที่ช่วยให้นักเรียนสามารถยื่นคะแนนเข้าเรียน และประสบความสำเร็จในการเรียนคณะอินเตอร์ทั้งในและต่างประเทศ