จิตแพทย์ ย้ำ หาก “เสก โลโซ” ป่วยไบโพลาร์จริง ควรเข้ารับการรักษา ชี้ เป็นโรคเรื้อรังต้องมีวินัยในการรักษา ไม่ขาดยา กลับมามีชีวิตปกติได้ วอนคนใกล้ชิดช่วยดูแล เตือนคนอย่าแห่ตามดูไลฟ์สด
จากกรณี นายเสกสรรค์ สุขพิมาย หรือ เสก โลโซ นักร้องชื่อดัง ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กต่อเนื่องหลายวัน ไม่หลับไม่นอน ทำให้สังคมเกิดการตั้งคำถามว่าเกี่ยวกับอาการทางจิตหรือไม่ โดยล่าสุด ดีเจเคนโด้ หรือ นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร พิธีกรชื่อดังทางช่อง GMM 25 ออกมาโพสต์ข้อความถึง เสก โลโซ ว่า อาการของอดีตนักร้องนำวง โลโซ เกิดจากโรคไบโพลาร์แน่นอน ซึ่งได้รับการยืนยันจากทนายส่วนตัวของ เสก โลโซ แล้ว แต่มีปัญหาคือ การรักษาที่ไม่ต่อเนื่อง เพราะขาดวินัย และคนรอบตัวช่วยเหลือดูแล
วันนี้ (15 ส.ค.) นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ในฐานะจิตแพทย์ แต่ไม่ใช่แพทย์เจ้าของไข้ เสก โลโซ คงไม่สามารถยืนยันว่า ป่วยเป็นไบโพลาร์จริงหรือไม่ แต่หากมีการยืนยันจากทนายส่วนตัวว่าป่วยเป็นโรคดังกล่าวจริง เสก โลโซ ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการรักษาเช่นกัน และประชาชนทั่วไปก็ไม่ควรแห่ตามไปดูไลฟ์สด แต่ควรเข้าใจว่า เขาคือคนป่วยที่ต้องได้รับการรักษา และคนที่ใกล้ชิดหรืออยู่แวดล้อมต้องช่วยเหลือ
นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า โรคไบโพลาร์เป็นโรคทางจิตเวช ที่ส่วนหนึ่งเกิดจากกรรมพันธุ์ พบได้ประมาณร้อยละ 1 ของประชากร สำหรับอาการของโรคจะมี 2 ขั้ว คือ แบบซึมเศร้า จะมีอาการ เช่น ท้อแท้ เบื่อหน่าย เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ ไม่อยากทำอะไร และแบบฟุ้ง จะมีอาการ คือ ขยัน พูดมาก คิดฟุ้ง ฯลฯ เมื่อคิดฟุ้งแล้วจะมีการแสดงพฤติกรรมที่ผิดแปลกไปจากคนปกติทั่วไป หากใครมีภาวะแบบนี้ ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษา เพราะจะช่วยให้กลับผู้ป่วยกลับมาเป็นปกติได้ อย่างไรก็ตาม ไบโพลาร์เป็นโรคเรื้อรัง ผู้ป่วยจะต้องมีวินัย ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ และห้ามขาดยา ถ้าไม่รักษา ปล่อยทิ้งไว้โรคจะกลับมาใหม่
“ผู้ป่วยไบโพลาร์ไม่ได้เข้ารับการรักษา หากปล่อยไปนานๆ อาการจะรุนแรงมากขึ้น ถึงที่สุดแล้วอาจจะมีการคลุ้มคลั่ง และสุดท้ายอาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่ก็เป็นส่วนน้อย ส่วนกรณีการอดนอน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน บางคนอาจอดหลับอดนอนได้นาน 1-2 สัปดาห์” นพ.ยงยุทธ กล่าว