อธิการ มทร.ธัญบุรี หนุน “หมออุดม” ดัน “ราชภัฏ-ราชมงคล” ออกนอกระบบ เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับ หลังตั้งกระทรวงอุดมฯ แต่ต้องดูความพร้อมแต่ละแห่ง เผย มทร.ธัญบุรี พร้อมยื่นเรื่องออกภายในสิ้นปีนี้ รับออกนอกระบบต้องหารายได้ 3 เท่าของงบหนุนจากภาครัฐ แต่ต้องไม่ขึ้นค่าเล่าเรียน
รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี กล่าวถึงกรณี นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีแนวคิดผลักดันมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) และ มทร.ทั่วประเทศ เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐ หลังจากตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิจัยและนวัตกรรม ว่า ตนมองว่าเป็นเรื่องดี เพราะเมื่อออกนอกระบบ มหาวิทยาลัยจะสามารถสร้างระเบียบหรือข้อกำหนดเกี่ยวกับค่าจ้างให้กับบุคลากรและอาจารย์ได้เอง โดยสามารถกำหนดค่าจ้างได้จากความรู้ความสามารถของแต่ละบุคคล แทนที่จะยึดค่าจ้างตามเกณฑ์วุฒิการศึกษาอย่างที่ผ่านมา ทั้งนี้ การออกเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับ มหาวิทยาลัยจะต้องมีจุดแข็ง มีอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัยที่ชัดเจน เพื่อนำเสนอมหาวิทยาลัยต่อนักศึกษาที่จะเข้าเรียนได้ว่า มีจุดแข็งในเรื่องใด นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยจะต้องมุ่งเน้นหารายได้ให้กับตัวเอง นอกเหนือจากงบประมาณที่ภาครัฐสนับสนุน โดยเน้นงานบริการวิชาการ งานวิจัย และอื่นๆ แต่จะต้องไม่ใช่จากการขึ้นค่าเล่าเรียน เพราะหากไม่หารายได้เพิ่มจะส่งผลเสียต่อการบริหารจัดการในอนาคต
“ในส่วนของ มทร.ธัญบุรี ได้ดำเนินการทำระเบียบข้อบังคับกฎหมายเรียบร้อยแล้ว สิ้นปี 2561 จะยื่นเรื่องขอออกเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับ คาดว่า 1-2 ปี จะออกนอกระบบ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มทร.ธัญบุรี ได้มีการเตรียมความพร้อมมาตลอดเวลา ซึ่งการที่มหาวิทยาลัยจะออกนอกระบบได้นั้น จะต้องมีการบริหารจัดการภายใต้ศักยภาพของมหาวิทยาลัย โดยมีสภามหาวิทยาลัยช่วยบริหาร การบริหารจัดการต้องเน้นเป้าหมาย มีดัชนีชี้วัดผลงานหรือความสำเร็จของงาน (KPI) โดยดูจากบริการวิชาการ บริการงานวิจัย บริการสังคม และอื่นๆ ซึ่ง มทร.ธัญบุรี ได้ให้แต่ละคณะใช้ระบบนี้มาแล้ว 5 ปี รวมถึงการบริหารจัดการด้านรายได้ เน้นการหารายได้จากภายนอก ซึ่งปี 2556 รายได้ของมหาวิทยาลัย 100 % ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ 70% ที่เหลือมหาวิทยาลัยหาเอง แต่ปัจจุบันตัวเลขจะมีความแตกต่าง ภาครัฐ 40% ที่เหลือ 60% มหาวิทยาลัยหาเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือตัวชี้วัดที่มทร.ธัญบุรีพร้อมที่จะออกไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับ” อธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าว
รศ.ดร.ประเสริฐ กล่าวอีกว่า การที่จะออกเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับนั้น ตนมองว่า มหาวิทยาลัยจะต้องหารายได้เป็น 3 เท่าของงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ เพื่อใช้ในการบริหารจัดการ เพราะค่าดำเนินการของบุคลากรและอาจารย์ในระยะยาวจะสูงขึ้น ทั้งนี้ การที่ให้ มรภ.และ มทร.ทั่วประเทศ ออกนอกระบบทั้งหมด ขณะนี้ความพร้อมของแต่ละแห่งไม่เท่ากัน ซึ่งในส่วนของ มทร.เอง มีทั้งมหาวิทยาลัยเล็ก กลาง ใหญ่ การออกนอกระบบควรอาศัยระยะเวลา แบ่งเป็นระยะโดยดูจากความพร้อมของมหาวิทยาลัย ศักยภาพและอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัย