รมว.สธ.เผยหลังช่วย “ทีมหมูป่า” 13 ชีวิตออกจากถ้ำหลวงได้ จะส่งต่อดูแล รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ มาตรฐานระดับนานาชาติ แยกการดูแลต่างหาก พร้อมดูแลครบทุกด้าน ทั้งอุณหภูมิ การปรับสายตา โลหิต ภูมิคุ้มกัน และการติดเชื้อ วอนหากช่วยได้แล้ว อย่ารุมจนเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนย้าย
วันนี้ (2 มิ.ย.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์กรณีนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าอคาเดมี รวม 13 คน ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ว่า วันนี้เป็นวันที่ 10 แล้ว สธ.และเจ้าหน้าที่ทุกคนต่างก็ห่วงผู้ติดอยู่ในถ้ำ จึงได้พยายามสร้างระบบสาธารณสุขเพื่อรองรับการดูแลสุขภาพของทุกคนหลังออกมาจากถ้ำแล้ว คิดว่า ในความหวังของพวกเราไม่เคยศูนย์เลย ยังมีความหวังว่า พวกเขาจะออกมาทั้ง 13 คน จึงเตรียมความพร้อมและร่วมมือกันทุกภาคส่วน ทั้งนี้ หลังออกมาแล้วจะต้องได้รับการดูแลตั้งแต่ต้น คือ เรื่องการให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ดูแลอุณหภูมิ เรื่องสายตาที่ต้องอยู่กับความมืดมานาน เรื่องโลหิต เรื่องภูมิคุ้มกันของร่างกายที่อาจจะลดลงจากการขาดอาหารและน้ำ เรื่องการติดเชื้อและด้านอื่นๆ จนครบ
“การช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในถ้ำจะต้องนำส่งไปยังโรงพยาบาลให้เร็วและดีที่สุด โดยทางทหารได้เตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้ 6 ลำ หากฟ้าไม่ปิดเดินทางได้ จะสามารถนำส่งไปยัง รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ได้ภายใน 15 นาที หากฟ้าปิดก็จะมีรถพยาบาล 13 คัน นำส่ง 1 ต่อ 1 ไปยัง รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และได้รับการดูแลตั้งแต่มีการเคลื่อนย้าย ส่วน รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ นับเป็นโรงพยาบาลศูนย์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของ สธ. มีมาตรฐานระดับนานาชาติ ก็ได้เตรียมรับมือและดูแลทั้ง 13 คน โดยมีการแยกการดูแลออกจากผู้ป่วยทั่วไป ถือเป็นการเตรียมพร้อมที่ดีที่สุดเพื่อลูกหลานของเรา เราห่วงมาก แต่ขอความร่วมมือว่า หากนำตัวออกมาได้แล้วอย่าไปมะรุมมะตุ้มเพราะจะกลายเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนย้าย” นพ.ปิยะสกล กล่าว
