xs
xsm
sm
md
lg

TCAS ยังวุ่นไม่จบ แต่ไม่มีใครรับผิดชอบ! / สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แฟ้มภาพ
บ้านนี้เมืองนี้ไปกันใหญ่แล้ว เด็ก ม.6 สอบเสร็จตั้งแต่เดือนมีนาคม แต่จนถึงวันนี้ยังมีเด็กจำนวนไม่น้อยยังหาที่เรียนในมหาวิทยาลัยไม่ได้ ท่ามกลางกระแสบอลโลกที่ผู้คนกำลังติดตามกันอย่างคึกคัก ยังมีเด็กนักเรียน ม.6 ที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในระบบ TCAS และยังไม่มีที่เรียน คงไม่มีอารมณ์ในการติดตามดูการแข่งขันบอลโลกได้เหมือนคนอื่น

ความวุ่นวายของระบบ TCAS ยังไม่จบ และทำท่าจะเป็นมหากาพย์ของความสูญเสีย เพราะเด็กที่สอบติดในรอบ 3 หรือรอบรับตรงร่วมกัน ทั้งรอบ 3/1 และ 3/2 ที่มีการสัมภาษณ์ไปเมื่อวันที่ 10-11 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งได้ยืนยันสิทธิ์ไปแล้ว แต่เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2561 ที่ผ่านมา ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ได้ประกาศรายชื่อนักเรียนผู้ผ่านการสอบสัมภาษณ์ TCAS รอบที่ 3 ผ่านทางเว็บไซต์ ปรากฎว่ามีนักเรียนสอบตกสัมภาษณ์กันระนาว

การสอบสัมภาษณ์เป็นเงื่อนไขหนึ่งที่นักเรียนทุกคนรู้ดี และพร้อมรับสภาพ จึงมีการเตรียมตัวกันเป็นอย่างดี แต่สุดท้ายก็เกิดปัญหา เพราะส่วนหนึ่งเกิดจากการที่หลายคณะ หลายสาขา ของมหาวิทยาลัยหลายแห่งมีการเรียกจำนวนเด็กสอบติดรอบ 3 เผื่อสำรองเกินจำนวนไว้มากกว่าจำนวนที่จะรับจริงไปเป็นจำนวนมาก บางสาขาเรียกสัมภาษณ์หลักร้อยแต่รับหลักสิบ เด็กเกิดคำถามมากมายสนั่นโลกโซเชี่ยลว่าคุณสมบัติก็ตรง เกณฑ์ขั้นต่ำก็ผ่าน จ่ายเงินค่าตรวจร่างกายไปแล้ว ก็ตกสัมภาษณ์ และจนถึงตอนนี้ก็มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่มีที่เรียน

จริงอยู่ ก่อนหน้านี้ผู้ที่สอบตกสัมภาษณ์ในรอบที่ 3 ทาง ทปอ.เคยระบุไว้ว่าจะทำการคืนสิทธิ์ให้ทันที เพื่อนำไปใช้สมัครในรอบ 4 หรือรอบแอดมิชชันได้ทันที ซึ่งสมัครได้ถึงวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา และทปอ. ก็ยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า สำหรับคนที่ตกสัมภาษณ์รอบที่ 3 ยืนยันว่าสามารถมาสมัครรอบ 4 ทันแน่นอน

ส่วนเด็กที่สอบสัมภาษณ์ผ่านแต่ต้องการจะสละสิทธิ์เพื่อมายื่นคะแนนในรอบที่ 4 หรือแอดมิชชันนั้น ไม่สามารถทำได้ เนื่องจาก ทปอ.ไม่สามารถคืนสิทธิ์ให้ทัน จึงต้องไปสมัครในรอบที่ 5 เพียงอย่างเดียว

ความอลเวงยังไม่จบ เด็กนักเรียนบางคนไม่มีคะแนน GAT หรือบางคนทำคะแนน GAT / PAT ได้ไม่ดี ก็ทำให้เกิดเป็นปัญหารอบ 4 ด้วยเหมือนกัน

ปัญหาของเด็กปีนี้ ต้องถือเป็นเคระห์กรรมด้วย เพราะเป็นเด็ก 61 รุ่นแรกที่เป็นเหยื่อของระบบที่ผู้ใหญ่เป็นคนหยิบยื่นให้ และคาดผลกระทบที่เกิดขึ้น…

หนึ่ง – เด็กจำนวนไม่น้อยที่เลือกคณะและมหาวัทยาลัยในปีนี้ ด้วยเหตุผลเพราะกลัวไม่มีที่เรียนมากกว่าจะเลือกคณะที่ตัวเองอยากเรียนหรือชอบมากที่สุด

สอง – เด็กยังขาดประสบการณ์ในการตัดสินใจเลือกคณะ เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนมากก็ไม่เข้าใจกับระบบนี้ ทำให้เด็กตัดสินใจบนพื้นฐานความกังวล ความกลัวไม่มีที่เรียน โดยผู้ใหญ่ไม่สามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับตัวเด็กได้เพียงพอ

สาม – เด็กปีนี้จะ “ซิ่ว” ในปีหน้าเยอะ เพราะมีเด็กจำนวนมากที่ยังไม่พอใจกับคณะที่เลือก ไม่พอใจ ไม่เข้าใจเพียงพอกับวิธีการ ก็จะเลือกสอบใหม่ในปีหน้า ก็จะทำให้ “เด็กซิ่ว” จำนวนนี้ไปแข่งขันกับเด็กในปี 62 เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน

สี่ – การสอบรอบ 4 หรือแอดมิชชั่น เชื่อเหลือเกินว่ารอบนี้เด็กจะประเมินการเลือกคณะที่คาดว่าตัวเองต้องติดให้ได้ เพราะกังวลว่าจะไม่มีที่เรียน ทั้งที่คะแนนของเด็กอาจเลือกคณะที่ตัวเองชอบและทำคะแนนได้ดีกว่ามากก็ตาม แต่ก็ขอให้มีที่เรียนไว้ก่อนดีกว่า

ห้า – ความรู้สึกทุกข์ระทมทางจิตใจที่ยากต่อการประเมินค่า เพราะเด็กนักเรียนและครอบครัวต้องเผชิญสภาพปัญหาของขั้นตอนการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ระบบมีปัญหา แต่เด็กต้องเป็นผู้ได้รับผลกระทบนั้นด้วย ในขณะที่เพื่อนที่สอบได้แล้ว ต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดเทอม บางมหาวิทยาลัยก็กำลังจะเปิดเทอมในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่เด็กอีกมากที่ยังไม่มีที่เรียน ยังต้องหวาดผวาอยู่กับเรื่องนี้อย่างไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง อย่าพูดถึงเรื่องเที่ยวเลย ไม่มีจิตใจจะทำอะไรเสียด้วยซ้ำ เด็กบางคนตัดพ้อต่อโชคชะตา เด็กบางคนหมดหวัง หมดอาลัยตายอยาก โพสต์ผ่านโซเชี่ยลว่าอยากฆ่าตัวตายก็มี ฯลฯ ลองคิดว่าเป็นลูกหลานของเราดูสิ

นี่ยังนับว่าโชคดีและน่าชื่นชมที่ยังมี “พี่ลาเต้ เว็บเด็กดี” ที่ยังเป็นที่พึ่งของเด็กนักเรียน ม.6 ที่ผิดหวังได้มากทีเดียว เพราะเด็กจำนวนมากที่หาทางออกไม่ได้ หรือมีปัญหา ก็จะโพสต์ไปถามไปบ่นเพื่อให้พี่ลาเต้ช่วยประสานกับ ทปอ. ให้ที ถ้าเกิดปัญหาขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งขึ้นมา พี่ลาเต้ก็ประสานได้ทันท่วงที

ทั้งที่หน้าที่นี้ควรเป็นของใคร ?

ตรงกันข้าม ทำไมเด็กนักเรียนจำนวนมากไม่เชื่อมั่นในทปอ. เสียแล้ว

นี่เฉพาะปัญหาของเด็ก 61 ยังไม่รู้ชะตากรรมของเด็ก 62 เพราะบางมหาวิทยาลัยเริ่มเปิดรับสมัครเด็กโควต้าของปี 62 แล้ว และทปอ.ก็กำลังเตรียมการสำหรับเด็กปีหน้าแล้วด้วย

คณะทำงานชุดเดิมยังเดินหน้าต่อ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าของเด็กปีนี้ และเตรียมการสำหรับเด็กปีหน้า แต่ไม่เห็นความรับผิดชอบใด ๆ ที่เกิดผลกระทบมากมายต่อเด็กและเยาวชนที่ตกเป็นเหยื่อของระบบที่ทปอ.ชุดนี้คิดกันขึ้นมา

เด็กไทยก็คงต้องตกอยู่กับการเป็นหนูทดลองต่อไป โปรดอย่าถามหาความรับผิดชอบใด ๆ เพราะมันไม่มีอยู่ในบ้านนี้เมืองนี้ !


กำลังโหลดความคิดเห็น