สภากาชาดไทย ดำเนินโครงการศัลยกรรมตกแต่งแก้ไขปากแหว่ง-เพดานโหว่และความพิการอื่น มาเป็นเวลากว่า 20 ปี ให้บริการแก่ผู้ป่วยยากไร้โดยไม่คิดค่ามูลค่า ทำการออกหน่วยปีละ 6 จังหวัด ครั้งละ 1 สัปดาห์ เป็นโครงการเชิงรุก เข้าค้นหาผู้ป่วยที่ด้อยโอกาสและนำตัวเข้ารับการผ่าตัด โดยแต่ละจังหวัดจะผ่าตัดเฉลี่ย 50 รายต่อครั้ง และบางจังหวัดมีจำนวนกว่า 100 ราย
นพ.พิชิต ศิริวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทกุข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า “โครงการศัลยกรรมตกแต่งฯ เริ่มต้นตั้งปี พ.ศ.2541 โดยมีปัจจัยสำคัญ 2 ประการ คือ ปากแหว่ง-เพดานโหว่ เป็นความพิการบนใบหน้าที่พบมากที่สุดในบรรดาความพิการแต่กำเนิดบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ และเนื่องจากอยู่บนใบหน้าจึงเห็นเด่นชัดมากและไม่สามารถซ่อนได้ หรือแม้จะเป็นเพียงเพดานโหว่ซึ่งทำให้พูดไม่ชัด คนก็รู้อยู่ดี เพราะฉะนั้นจึงเป็นความทุกข์ทรมานของผู้ป่วยทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงเป็นปมด้อยสำหรับเด็กด้วย ซึ่งเด็กปากแหว่ง-เพดานโหว่ โดยทั่วไปมีสติปัญญาเป็นปกติ โครงการนี้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะใช้เงินบริจาคเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ออกหน่วยผ่าตัดรักษาประชาชนปีละ 6 จังหวัด โดยประสานงานร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด และโรงพยาบาลจังหวัด ให้ช่วยค้นหาผู้ป่วยในหมู่บ้านที่ด้อยโอกาส ลงทะเบียน และจัดรถพาไปโรงพยาบาลประจำจังหวัด เพื่อให้ทีมแพทย์จากสำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ เป็นผู้คัดกรองและผ่าตัด ในตอนแรกทีมแพทย์เลือกจังหวัดที่ไม่มีแพทย์ผ่าตัดด้านนี้เลย พบว่ามีจำนวนคนไข้จำนวนมาก และส่วนใหญ่ฐานะยากจน แต่ตอนหลังพบว่าแม้บางจังหวัดจะมีศัลยแพทย์ตกแต่งที่ผ่าตัดได้ แต่ก็ยังมีคนไข้ให้ผ่าตัดอีกมาก สาเหตุคือแพทย์ผ่าตัดอยู่ในโรงพยาบาลแต่คนไข้ไม่มาหา
"จนถึงปี พ.ศ. 2548 จากสถิติย้อนหลังพบว่า อายุเฉลี่ยของเด็กที่มาผ่าตัดยังสูงเกินไป เช่น ปากแหว่งผ่าตัดตอนอายุ 5 ขวบ เด็กโดนล้อจนเป็นปมด้อยไปแล้ว หรือเพดานโหว่ผ่าตัดตอนอายุ 7-8 ขวบ เด็กก็พูดไม่ชัดไปแล้ว ช่วงอายุที่เหมาะสมในการผ่าตัดคือ ปากแหว่งควรผ่าตัดตั้งแต่อายุ 3 เดือน และเพดานโหว่ควรผ่าตัดตอนอายุ 9 เดือนถึง 1 ขวบครึ่งไม่ควรเกินนั้น สภากาชาดไทยได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จัดทำโครงการ “ยิ้มสวย เสียงใส เทิดพระเกียรติ 50 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล" นพ.พิชิต กล่าว
นพ.พิชิต กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่ลงทะเบียนเด็กแรกคลอด ซึ่งทุกรายที่มีภาวะปากแหว่ง-เพดานโหว่ แต่การนำตัวผู้ป่วยมาผ่าตัดจะมีค่าใช้จ่าย สภากาชาดไทยจึงดำเนินการหาเงินบริจาคมาจ่ายให้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างด้าว ผ่าตัดที่โรงพยาบาลใด สภากาชาดไทยก็ยินดีออกค่าใช้จ่ายค่าเดินทางให้ รายละ 1,000 บาท ส่วน สปสช. จะชดเชยค่าผ่าตัดให้โรงพยาบาลอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากสมาคมทันตแพทย์จัดฟันแห่งประเทศไทย ในการให้การรักษาทางศัลยกรรม ทันตกรรม การฝึกพูด เนื่องจากเด็กปากแหว่งจะมีแผงฟันที่มีปัญหา ฟันบิดเก มีปัญหาการเคี้ยว ไม่กล้ายิ้ม ไม่กล้าพูด เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีและลดอุบัติการเกิดโรค ถือเป็นจุดเริ่มการแก้ปัญหาความพิการปากแหว่ง-เพดานโหว่ ในประเทศไทยอย่างเป็นระบบ
ล่าสุด สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ร่วมกับแพทย์อาสาสมัคร ได้ออกหน่วยศัลยกรรมตกแต่งแก้ไขปากแหว่ง-เพดานโหว่และความพิการอื่น ระหว่างวันที่ 21-25 พฤษภาคม 2561 ณ โรงพยาบาลสตูล จังหวัดสตูล เพื่อให้บริการตรวจและผ่าตัดรักษาผู้ป่วยปากแหว่ง-เพดานโหว่ และความพิการทางศัลยศาสตร์ตกแต่งอื่น ๆ เช่น แผลเป็นหดรั้งจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก นิ้วติด นิ้วเกิน เป็นต้น พร้อมกันนี้ได้มอบของขวัญให้แก่ผู่ป่วยที่เข้ารับการรักษา เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจอีกด้วย โดยตั้งแต่ปี 2541 จนถึงปัจจุบัน มีจำนวนผู้เข้ารับบริการรวมทั้งสิ้น 5,960 ราย ออกหน่วยให้บริการมาแล้ว 109 ครั้ง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 43 จังหวัด
ความพิการแต่กำเนิดส่วนใหญ่มาจากพันธุกรรม แต่งานวิจัยบอกว่าถึงจะเป็นพันธุกรรมก็ป้องกันได้ ถ้ารับประทานวิตามินโฟลิกตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ 3 เดือน จนกระทั่งตั้งครรภ์ครบ 3 เดือน วันละ 400 ไมโครกรัม จะช่วยลดโอกาสความพิการของลูกได้เกือบครึ่ง สภากาชาดไทยได้รณรงค์ให้ความรู้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหญิงวัยเจริญพันธุ์ เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับวิตามินโฟลิก
นพ.พิชิต กล่าวว่า วิตามินโฟลิกหรือโฟเลต คือ วิตามินบี 9 ที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของตัวอ่อน ช่วยป้องกันความผิดปกติของเลือด และมีส่วนช่วยในการซ่อมแซม DNA ในเซลล์ ซึ่งหากร่างกายได้รับโฟเลต ไม่เพียงพอ ระดับโฟเลตในเซลล์ลดลง การเจริญเติบโตของเซลล์ก็จะหยุดชะงักตามไปด้วย ทำให้การเจริญเติบโตของตัวอ่อนไม่สมบูรณ์และเกิดความพิการแต่กำเนิดได้ การรับประทานวิตามินโฟลิก จะช่วยลดความพิการ แต่กำเนิดได้หลายประการ เช่น ความพิการของหลอดประสาท โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ความผิดปกติของแขนขา ความพิการของระบบทางเดินปัสสาวะและโรคไม่มีรูทวารหนัก และโรคปากแหว่ง-เพดานโหว่ เป็นต้น
ผู้มีจิตศรัทธาสามารถบริจาคเงิน เพื่อสมทบทุนโครงการศัลยกรรมตกแต่งแก้ไขปากแหว่ง-เพดานโหว่ และความพิการอื่น และโครงการยิ้มสวย เสียงใสเทิดพระเกียรติ 50 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ที่สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์ ในวันและเวลาราชการ หรือโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี สภากาชาดไทย เลขที่บัญชี 045-2-88000-6 ระบุ เพื่อโครงการศัลยกรรมตกแต่งแก้ไขปากแหว่ง-เพดานโหว่ และความพิการอื่น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 0 2251 7853-6, 0 2251 7614-5 หรือ 1664