กรมสุขภาพจิต จัดบุคลากรรับมือ “พนันบอลโลก” เปิดสายด่วน 1323 และเฟซบุ๊ก บริการปรึกษา 24 ชั่วโมง ห่วงเด็กติดพนันตั้งแต่อายุยังน้อย มีโอกาสเสพติดพนันตลอดชีวิต เผย 3 อาการบ่งบอกเสพติดการพนัน แนะบอกลาการพนันด้วยตนเอง ยืดเวลา เบนความสนใจ เตือนตัวเองให้หยุดเล่น
วันนี้ (12 มิ.ย.) น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวภายหลังเปิดการอบรมบุคลากรจากโรงพยาบาลจิตเวชและศูนย์สุขภาพจิตทั่วประเทศ เพิ่มพูนความรู้และทักษะการปรึกษาสุขภาพจิตและการบำบัดเสริมสร้างแรงจูงใจให้ผู้ที่มีปัญหาการพนันเลิกเล่นการพนัน ว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกที่รัสเซียปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน - 15 กรกฎาคม 2561 มีการคาดการณ์ว่าอาจจะมีการพนันออนไลน์ประเภททายผลฟุตบอลกันมากกว่าปกติ เป็นภัยอันตรายที่มาแรงในโลกยุคดิจิทัล เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเล่นพนันโดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน ผลสำรวจในปี 2558 พบว่า เด็กและเยาวชน ใช้เว็บไซต์เป็นช่องทางเข้าถึงข้อมูลการพนันถึงร้อยละ 53 และเด็กวัยนี้มีความเสี่ยงสูงจะติดการพนันได้ง่ายและเลิกยาก เนื่องจากสมองส่วนหน้าซึ่งทำหน้าที่ในการคิด ใช้เหตุผลตัดสินใจ ยังเจริญไม่เต็มที่เท่าผู้ใหญ่ จึงขาดความยับยั้งชั่งใจ
น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวว่า การป้องกันเด็กและเยาวชนจากการพนันฟุตบอลออนไลน์ในช่วงฟุตบอลโลก กรมสุขภาพจิตได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาคม และเครือข่ายเด็กและเยาวชน จำนวน 11 แห่ง โดยรับผิดชอบมิติการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวเยาวชนและประชาชนทั่วไปที่มีปัญหา เปิดบริการสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ให้คำปรึกษาฟรีตลอด 24 ชั่วโมง และระบบออนไลน์ทางเฟซบุ๊กเพจ สายด่วนสุขภาพจิต 1323 เลิกพนัน (@GamblingCounseling1323) ฟรี ในช่วงเวลา 14.30 - 22.30 น. พร้อมทั้งเปิดให้บริการปรึกษาแก่ผู้ที่มีปัญหาติดการพนันในโรงพยาบาลสังกัดกรมสุขภาพจิต 19 แห่งทั่วประเทศ ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมของบุคลากร ทั้งจิตแพทย์ทั่วไป จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น นักจิตวิทยา พยาบาลจิตเวชไว้แล้ว จะให้บริการตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป
“เด็กและเยาวชนที่ติดการพนันตั้งแต่อายุยังน้อย จะส่งผลให้สมองมีพัฒนาที่ไม่เหมาะสม มีโอกาสติดพนันตลอดชีวิต จึงต้องรีบไปพบแพทย์รักษาให้เร็วที่สุด โดยผู้อยากเลิกพนันสามารถรักษาให้หายได้ แต่หากไม่ได้รักษา จะมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและเกิดปัญหาสังคมหลายอย่าง เช่น ปล้นชิงทรัพย์ ล่อลวงเงิน ร้อยละ 61 ขายบริการทางเพศร้อยละ 7 ค้ายาเสพติดร้อยละ 5 มีโอกาสติดเหล้า 5 เท่าตัว เกิดภาวะซึมเศร้า 4 เท่า และพยายามฆ่าตัวตายร้อยละ 6 ทั้งนี้ ผลการให้บริการสายด่วนการพนันในช่วงปี 2560 พบว่า สัดส่วนของผู้เล่นพนันออนไลน์ที่ขอรับการปรึกษาเพิ่มสูงขึ้นกว่าปี 2558 ถึง 3 เท่า คือจาก 53 คน เป็น 150 คน โดยร้อยละ 84 เป็นชาย อายุ 22 - 59 ปี ในจำนวนนี้ เป็นเยาวชนอายุ 15 - 21 ปี ร้อยละ 11 จึงขอให้เยาวชนและประชาชนทุกคนที่เป็นคอบอล เชียร์บอลโลกเพื่อความสนุก เพลิดเพลิน จะมีผลให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขมากขึ้น ช่วยคลายเครียดในช่วงนี้ได้ด้วย” อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว
พญ.รัชนี ฉลองเกื้อกูล ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กทม. กล่าวว่า ผู้ที่เสพติดการพนันจะมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป 3 ลักษณะ ได้แก่ 1. เมื่อพยายามหยุดเล่นพนันจะมีอาการนอนไม่หลับ หงุดหงิด หรือวิตกกังวล 2. ปิดบังครอบครัวหรือเพื่อนไม่ให้รู้ว่าเสียพนัน 3. ต้องการความช่วยเหลือด้านการเงิน หากพบบุตรหลานบุคคลในครอบครัวหรือตนเองมีพฤติกรรม 1 ใน 3 ข้อที่กล่าวมา แสดงว่าเสี่ยงต่อการติดพนัน ขอให้รีบโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 เพื่อเข้ารับการบำบัดรักษาอย่างจริงจังก่อนที่อาการจะรุนแรงเกิดโรคทางจิตเวช ที่เรียกว่า โรคพนัน (Pathological Gambling) มีอาการคือหยุดเล่นพนันไม่ได้ แม้จะมีความทุกข์ขนาดไหนก็ตาม เพราะสมองเสพติดอย่างรุนแรง ทั้งนี้ สาเหตุที่คนติดการพนัน มักจะเริ่มมาจากความคิดหลอกตัวเองว่า เล่นครั้งเดียวไม่เป็นไร ไม่เสียหรอก เมื่อเล่นได้แล้ว จะฮึกเหิมอยากได้เพิ่มอีก หากเสียก็จะแก้มือเอาคืน
แพทย์หญิง รัชนี กล่าวว่า สำหรับผู้ที่อยากเลิกเล่นพนันให้สำเร็จด้วยตนเอง ขอให้ยึดหลัก 3 ประการหรือหลัก 3D ได้แก่ 1. การยืดระยะเวลาอยากเล่นออกไป (Delay) เพื่อเปลี่ยนความอยากให้เป็นความไม่อยากเล่น เมื่อมีความอยากเล่น ให้ใช้เวลาอยู่กับตนเองสักครู่ และบอกกับตัวเองว่า ฉันจะไม่ทำตามความต้องการที่อยากเล่นพนันของฉันทันที 2. เบี่ยงเบนความสนใจ (Distract) ไปทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ชอบทดแทนในทางบวก เช่น ออกกำลังกาย ทำงานอดิเรก หารายได้เสริม ทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว และบอกกับตัวเองว่าเดี๋ยวความรู้สึกนี้จะหายไป และ 3. ตัดสินใจเลิกเล่น การพนัน (Decide) โดยเตือนสติตัวเองทุกครั้ง เพื่อหยุดความอยากเล่น เช่น ให้คิดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและผลลัพธ์ที่จะตามมาหากยังไปเล่น เช่น ยิ่งคิดเอาคืนจะยิ่งเสียมากขึ้น โดยให้คิดถึงเป้าหมายในชีวิตที่มีความสุขเป็นสำคัญ
อย่างไรก็ดี ครอบครัวนับว่ามีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาติดการพนัน แนะนำควรปฏิบัติดังนี้ คือ ให้ความเข้าใจ ให้อภัย หลีกเลี่ยงการบ่น และไม่จับผิด เพื่อให้ผู้มีปัญหารู้สึกปลอดภัย ให้รับฟังความรู้สึกเรื่องราวต่างๆ โดยไม่มีอคติ เพื่อผลักดันให้ผู้ที่มีปัญหาเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีและคอยให้กำลังใจ พร้อมทั้งช่วยจัดการกับภาวะวิกฤติและส่งเข้าบำบัดรักษาที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน ซึ่งขณะนี้มีระบบการดูแลเชื่อมโยงกับโรงพยาบาลเชี่ยวชาญเฉพาะทางทุกแห่งแล้ว