วสท. ค้านกระทรวงแรงงานเตรียมเปิด “ต่างด้าว” ทำอาชีพวิศวกรรมโยธา ยันวิศวกรโยธาไทยมีเพียงพอ ความสามารถสูง ไม่ขาดแคลน ชี้ ต้องเชี่ยวชาญสัณฐานประเทศ ไม่ใช่ให้ต่างชาติเข้ามาทำได้อิสระ หวั่นสร้างความเสียหาย ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ปลอดภัย กระทบอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างเป็นทอดอีกกว่า 2 ล้านล้านบาท หากจะเข้ามาทำต้องขออนุญาตตามกฎหมายวิชาชีพ
วันนี้ (1 มิ.ย.) ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) แถลงข่าวกรณีกระทรวงแรงงานประกาศให้คนต่างด้าวทำอาชีพวิศวกรรมโยธา เพื่อบรรเทาความขาดแคลนแรงงาน โดยจะประกาศเป็นกฎกระทรวงลงในราชกิจจานุเบกษา มีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 มิ.ย. 2561 ว่า ตามที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน แถลงข่าวว่า กำลังเตรียมออกประกาศให้คนต่างด้าวทำได้ 12 อาชีพ ซึ่งรวมงานในวิชาชีพวิศวกรรม สาขาวิศวกรรมโยธา โดยอ้างว่าเพื่อบรรเทาการขาดแคลนแรงงาน โดยยึดหลัก 3 ประการ ต้องไม่เป็นภัยความมั่นคง ไม่กระทบการมีงานทำของคนไทย และจะอนุญาตเท่าที่จำเป็นนั้น วสท.ซึ่งเป็นองค์กรหลักด้านวิศวกรรมของประเทศมากว่า 75 ปี ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการประกาศของกระทรวงแรงงาน
“ส่วนราชการยังขาดความเข้าใจในงานวิศวกรรมโยธา ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติตลอดมา เนื่องจากงานวิศวกรรมโยธาในขณะนี้ประเทศไทยมีการพัฒนาโครงการเมกะโปรเจกต์ โครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ขนส่งและโลจิสติกส์ สิ่งปลูกสร้าง อสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ที่อยู่อาศัยมากมาย ล้วนเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและใช้เทคโนโลยีระดับสูงอย่างหลากหลาย การที่เปิดให้วิศวกรต่างชาติเข้ามาได้อย่างง่ายดาย แบบที่กระทรวงแรงงานประกาศ เท่ากับว่า เป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อชีวิต และทำลายเศรษฐกิจของประเทศไทย จะก่อให้เกิดการเสียประโยชน์จากการจ้างงานวิศวกรคนในประเทศ ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของเมือง และประเทศชาติ เพราะตึกหรือโครงการที่สร้างเสร็จแล้วไม่สามารถที่จะเห็นถึงภายในได้ว่าเขาใช้วัสดุก่อสร้าง เหล็กเส้นมีคุณภาพเพียงพอหรือไม่ หรือได้มีกระบวนการก่อสร้างตามขั้นตอนมาตรฐานที่กำหนดไว้หรือไม่” ดร.ธเนศ กล่าว
ดร.ธเนศ กล่าวว่า วสท. ขอสงวนงานในวิชาชีพวิศวกรรม สาขาวิศวกรรมโยธา ที่เกี่ยวกับงานออกแบบ คำนวณ จัดระบบ วิจัย วางโครงการ ทดสอบ ควบคุม การก่อสร้างและให้คำแนะนำ สำหรับคนไทยเท่านั้น หากต่างด้าวจะเข้ามาทำงานในลักษณะดังกล่าว ต้องผ่านขั้นตอนขออนุญาตตามกฎหมาย พ.ร.บ. ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม และ พ.ร.บ. วิศวกร พ.ศ. 2542 ทั้งนี้ ไม่รวมงานที่ต้องใช้ความชำนาญพิเศษ
รศ.เอนก ศิริพานิชกร ประธานคณะกรรมการสาขาวิศวกรรมโยธา วสท. กล่าวว่า เดิมมีการสงวนอาชีพวิศวกรรมโยธาไว้สำหรับคนไทยตั้งแต่ปี 2518 และต่อมากระทรวงแรงงานได้ออกประกาศเป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทยตาม พ.ร.ฎ. การกำหนดในอาชีพและวิชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ พ.ศ. 2522 ได้กำหนดบัญชีอาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำในวิชาชีพวิศวกรรม สาขาวิศวกรรมโยธา ทั้งนี้ ในนานาประเทศถือว่างานวิศวกรรมโยธาเป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญในภูมิสัณฐานของประเทศ (Locality) ไม่ไช่ปล่อยใครมาทำก็ได้หรือปล่อยให้คนต่างด้าวมาดำเนินงานวิศวกรรมโยธา ศักยภาพของวิศวกรโยธาและอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทยนั้น มีความเจริญก้าวหน้าและใช้เทคโนโลยีทันสมัย มีประสบการณ์และสร้างผลงานด้านวิศวกรรมและสิ่งปลูกสร้าง เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนจำนวนวิศวกรโยธาของประเทศไทยก็มีจำนวนเพียงพอและความสามารถสูง ไม่เพียงงานในประเทศเท่านั้น แต่ยังสามารถส่งออกงานก่อสร้างไปยังต่างประเทศและเป็นที่ยอมรับในคุณภาพและประสิทธิภาพเป็นอย่างดี
นายสมจิตร์ เปี่ยมเปรมสุข อุปนายก วสท. กล่าวว่า งานวิศวกรรมโยธาและอุตสาหกรรมวัสดุและการก่อสร้างเป็นอุตสาหกรรมที่มีห่วงโซ่ Supply Chain ยาวมากและเกี่ยวข้องกับการผลิตหลายภาคส่วน ตั้งแต่ส่วนผสม วัสดุ เหล็ก ปูน วัสดุก่อสร้าง นวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย การที่ปล่อยให้วิศวกรรมโยธาต่างชาติเข้ามาทำงาน จะเป็นผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่สร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ประเทศปีละกว่า 2 ล้านล้านบาท
รศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ อดีตเลขาธิการ วสท. กล่าวว่า ในภาวะที่โลกเผชิญกับภัยพิบัติธรรมชาติและภัยพิบัติที่เกิดจากมนุษย์บ่อยขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว น้ำท่วม ไฟไหม้ ดินสไลด์ งานวิศวกรรมโยธาโดยวิศวกรไทยมีบทบาทสำคัญยิ่งในการเสริมสร้างความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินและป้องกันความรุนแรงของอุบัติภัยเหล่านี้
