xs
xsm
sm
md
lg

อย่าด่วนตัดสินข่าวเด็กจ้างวานข่มขืน เชื่ออาจเป็นพฤติกรรมเลียนแบบโดยไม่รู้ความหมาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


จิตแพทย์ ชี้ ข่าวเด็ก ป.3 จ้างวานเด็ก ป.5 ข่มขืน ด.ญ. 6 ขวบ ต้องดูข้อมูลเชิงลึก รับเด็กก่อความรุนแรง ส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมเลียนแบบ และยังไม่เข้าใจความหมาย “จ้างวาน - ข่มขืน” ขออย่าดรามา พิจารณาตามข้อเท็จจริง ระบุเด็กต่ำกว่า 12 ปี ด.ช. อวัยวะเพศยังไม่แข็งตัว

วันนี้ (26 พ.ค.) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะจิตแพทย์ กล่าวถึงกรณีเด็ก ป.3 จ้างเด็ก ป.5 ไปกระทำอนาจารเด็กหญิงวัย 6 ขวบ และพยายามจับกดน้ำ ด้วยการว่าจ้าง 35 บาท ว่า เรื่องนี้ต้องดูข้อมูลเชิงลึก เพราะจากข่าวช่วงวัยดังกล่าวอาจมีโอกาสทำลงไปแบบที่เรียกว่า เล่นกันเกินขอบเขตการเข้าใจตามวัยของเขา ดังนั้น ต้องกลับไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น นอกจากนี้ ในมิติเรื่องเพศ เด็กอาจจะไม่เข้าใจว่าสิ่งที่กำลังทำนั้นความหมายจริงๆ คืออะไร เด็กวัยนี้ส่วนใหญ่ที่ทำเป็นเรื่องของการเลียนแบบพฤติกรรม ซึ่งไม่รู้ว่าความหมายของพฤติกรรมที่เลียนแบบนั้นหมายความว่าอย่างไร ไม่ได้รู้ความหมายแบบที่ผู้ใหญ่เข้าใจ โดยปกติจะมีกระบวนการบ้านพักเด็กเข้าไปดูแล วิเคราะห์พฤติกรรม

พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า กรณียุวอาชญากรทั่วไป นอกจากกรณีเด็กก่ออาชญากรรมโดยการลอกเลียนพฤติกรรมโดยไม่รู้ความหมายแล้ว ยังพบว่าเด็กก่อเหตุเพราะถูกชักจูงให้ทำเรื่องที่ผิดๆ ทั้งนี้ ถ้าดูตัวเลขสถานพินิจ พบเด็ก และเยาวชนกระทำความผิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเยาวชนอายุ 12-18 ปี ส่วนเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปีโดยเฉพาะต่ำกว่า 10 ปี นั้นน้อยมาก และส่วนใหญ่เกินขึ้นเพราะไม่เข้าใจความหมายของสิ่งที่ทำลงไป และมีบางส่วนถูกหลอกให้กระทำผิด เช่น ถูกหลอกเป็นเด็กเดินยา ซึ่งถือว่ามากที่สุดเกือบครึ่งหนึ่งของการกระทำความผิดในเด็ก

นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวว่า อยากให้สังคมค่อยๆ พิจารณาข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน เชื่อว่ายังมีรายละเอียดอีกมาก แต่สิ่งแน่นอนคือได้เกิดความรุนแรงระหว่างเด็กขึ้นแล้ว และมีเด็กเป็นผู้ถูกกระทำและเป็นผู้กระทำ ทั้งนี้ คำว่า ข่มขืน หรือ จ้างวาน ล้วนเป็นคำพูดของผู้ใหญ่ที่นำมาใส่ในเด็ก อีกทั้งต้องเข้าใจข้อเท็จจริงเรื่องสรีระของเด็กด้วยว่า ในเด็กผู้ชายอวัยวะเพศจะแข็งตัวเมื่ออายุ 12 ปีขึ้นไป หรือเป็นวัยรุ่น ฉะนั้น เด็ก ป.5 จะทำการข่มขืนได้ต้องเป็นที่มีร่างกายโตว่าเด็กทั่วไป ส่วนการจ้างวาน เชื่อว่ายังเร็วเกินไปที่เด็กวัยประถมจะคิดได้ จึงเชื่อว่าน่าจะมีรายละเอียดอีกมาก

นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า ตามปกติในการพิจารณาคดีของศาลเยาวชนและครอบครัว มักให้ความเห็น ว่า ความรุนแรงในเรื่องนี้ต้องได้รับการแก้ไข ไม่สามารถยอมความ หรือกลบเกลื่อน หรือ ให้แล้วต่อกันได้ เพื่อให้ความรุนแรงในเด็กลักษณะนี้ได้รับการแก้ไข ทั้งตัวผู้กระทำความรุนแรง และผู้ถูกกระทำต้องได้รับการเยียวยาบาดแผลในจิตใจ การยอมความจะทำให้ ทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้รับความช่วยเหลือ เพราะในส่วนของผู้กระทำความรุนแรงหากเป็นเด็ก เติบโตไปก็อาจก่อความรุนแรงมากขึ้น เพราะไม่มีการปรับแก้ไขแต่ต้น ส่วนคนที่ถูกกระทำ ก็มีบาดแผลในใจกลายเป็นปมด้อย ดังนั้น เรี่องราวในช่วงวัยเด็กจึงเป็นรากฐานสำคัญในอนาคต

“สิ่งสำคัญที่สังคมควรให้ความสนใจจากข่าวนี้ เริ่มแรกคือหยุดดรามา พิจารณาข้อเท็จจริง เพราะถ้อยคำจากข่าว ทั้งข่มขืน จ้างวาน อาจไม่ใช่ความจริงทั้งหมด เพราะคำพูดเหล่านี้เป็นคำของผู้ใหญ่ไม่ใช่เด็ก และต้องเข้าใจว่าความรุนแรงระหว่างเด็กมีทุกยุคทุกสมัย และมีหลายระดับ เช่น เด็กแกล้งกันในโรงเรียน, นักเรียนตีกัน แต่ปัญหาเหล่านี้ ต้องมีการแก้ คนก่อความรุนแรง ต้องปรับพฤติกรรม คนถูกกระทำต้องได้รับการช่วยเหลือ ในประเทศญี่ปุ่น มีเด็กที่ถูกเพื่อนรังแก เริ่มแรกไม่ไปโรงเรียน จนท้ายที่สุดฆ่าตัวตาย ดังนั้น ต้องมีการฝึกให้เด็กรู้จักแก้ปัญหา ตั้งแต่ฝึกการขอความช่วยเหลือ พ่อแม่ต้องรับฟัง อย่ามองเป็นเรื่องของเด็ก และไปพูดคุยกับครูประจำชั้น ร่วมกันฝึกให้เด็กเข้มแข็ง แต่ไม่ใช้ความรุนแรงตอบโต้ ส่วนเด็กที่ก่อความรุนแรง หากทางโรงเรียนแจ้งผู้ปกครองมา อันดับแรก พ่อแม่อย่าเข้าข้างปกป้องลูก ยอมรับความจริงให้ได้ และวางแผนแก้ไข ปรับพฤติกรรม” นพ.ยงยุทธ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น