xs
xsm
sm
md
lg

จะทำอย่างไรดีเมื่อลูกรักนอนไม่หลับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โดยปกติเด็กในวัยทารกควรนอนวันละประมาณ 15 ชั่วโมง เด็กในวัยเรียนควรนอนวันละ 7-8 ชั่วโมง การที่เด็กได้นอนหลับอย่างเต็มที่นั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก เพราะเด็กที่ได้รับการนอนอย่างเพียงพอนั้นจะทำให้สมองของเด็กได้รับการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ

หากลูกมีปัญหานอนหลับยาก นอนไม่หลับหรือหลับๆ ตื่นๆ นับว่าเป็นปัญหาหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจ เพราะหากลูกมีปัญหาในการนอนหลับไม่เพียงพอแล้วก็จะทำให้ลูกมีพัฒนาการทางสมองล่าช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกัน อีกทั้งส่งผลทำให้เด็กงอแง หงุดหงิดง่าย ดังนั้น เมื่อลูกมีปัญหาในการนอนคุณพ่อคุณแม่ต้องพยายามค้นหาสาเหตุและหาวิธีแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด

ทำไมเด็กถึงนอนไม่หลับ

1. สิ่งแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย เช่น ห้องนอนมีสภาพแออัดทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ห้องนอนมีอากาศที่ร้อนอึดอัดหรือเย็นมากจนเกินไป หรืออาจจะเป็นเพราะว่าลูกนอนรวมกับคุณพ่อคุณแม่ที่มีนิสัยชอบนอนดึกเล่นคอมพิวเตอร์ เล่นโทรศัพท์มือถือ หรือเปิดโทรทัศน์วิทยุที่มีเสียงดังในเวลากลางคืน ซึ่งทำให้เป็นสาเหตุที่รบกวนทำให้ลูกนอนหลับได้ยาก

2. ความเจ็บป่วย หากว่าเด็กเจ็บป่วยแล้วก็จะส่งผลให้เขาไม่สามารถที่จะนอนหลับได้อย่างปกติได้ อีกทั้งในเด็กเล็กๆนั้นเขาไม่สามารถจะอธิบายให้คุณพ่อคุณแม่ทราบได้ว่าเขาป่วยเป็นอะไร ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตว่าหากลูกมีปัญหาในการนอนหลับยากหรือนอนไม่หลับลูกอาจจะมีความผิดปกติจากอาการป่วยได้ เช่น ปวดฟัน เป็นไข้ ปวดตามร่างกาย ปวดศรีษะ ซึ่งอาการผิดปกติดังที่กล่าวไปแล้วนั้นจะทำให้ลูกมีอาการนอนไม่หลับได้

3. เป็นเด็กสมาธิสั้น เด็กในกลุ่มนี้มักจะมีปัญหาในเรื่องของการนอน ซึ่งโดยมากมักจะหลับยาก หลับไม่สนิทตื่นบ่อยๆ เป็นเพราะสารอะดรีนารีนหลั่งออกมาและกระตุ้นทำให้เด็กมีอาการตื่นตัวยากต่อการสงบจึงทำให้มีปัญหาในการหลับยาก

คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยให้ลูกนอนหลับง่ายได้ ดังนี้

1. เล่านิทานก่อนนอน การที่คุณพ่อคุณแม่เล่านิทานให้ลูกฟังก่อนนอนนั้น ช่วยให้ลูกมีความสุขอบอุ่นและผ่อนคลายซึ่งนิทานก่อนนอนที่คุณพ่อคุณแม่เลือกมาเล่าให้ลูกฟังนั้นควรเป็นนิทานที่มีเนื้อหาที่ฟังแล้วเกิดความผ่อนคลาย ซึ่งเนื้อหาของนิทานก่อนนอนที่คุณพ่อคุณแม่นำมาเล่าให้ลูกฟังนั้น ควรหลีกเลี่ยงนิทานที่มีเนื้อหาตื่นเต้นน่ากลัวเพราะนั่นจะเป็นการกระตุ้นให้ลูกยิ่งนอนไม่หลับได้ นอกจากนี้ขณะที่เล่านิทานก่อนนอนให้ลูกฟังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรสัมผัสลูกด้วยการกอด โอบ ลูบหัวลูกไปด้วย เพราะการสัมผัสของคุณพ่อคุณแม่จะทำให้เด็กรู้สึกอบอุ่นสบายกายและสบายใจซึ่งช่วยทำให้ลูกเคลิ้มและหลับง่ายและหลับสบายมากยิ่งขึ้น

2. จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ห้องนอนสำหรับเด็กนั้นไม่ควรมีแสงสว่างที่ส่องแยงตาเด็ก อีกทั้งอุณหภูมิในห้องต้องมีความพอเหมาะคือไม่ร้อนหรือไม่หนาวจนเกินไป นอกจากนี้ควรจัดห้องนอนให้สะอาดไม่มีของวางรกรุงรังสกปรก ไม่มีฝุ่นหรือหยากไย่ซึ่งทำให้เด็กมีอาการคันเนื้อคันตัวจนนอนไม่หลับได้

3.เปิดเพลงเบาๆสบายๆ เป็นวิธีที่ดีอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยทำให้ลูกนอนหลับง่ายขึ้น โดยคุณพ่อคุณแม่เปิดเพลงบรรเลงเบาๆที่มีเสียงธรรมชาติประกอบ เช่น เสียงน้ำตก เสียงนก เสียงลมพัดเบาๆ เสียงเพลงเหล่านี้จะช่วยทำให้เด็กรู้สึกสงบ สบาย ผ่อนคลาย ซึ่งช่วยให้เด็กนอนหลับได้ง่ายขึ้น

หากพบว่าลูกมีปัญหานอนไม่หลับ คุณพ่อคุณแม่ต้องค้นพบให้ได้ถึงสาเหตุของการนอนไม่หลับนั้นและรีบแก้ไขโดยด่วน เพื่อให้ลูกๆที่น่ารักของท่านนอนหลับสบาย เพราะเด็กที่นอนหลับอย่างเพียงพอจะทำให้เขาเป็นคนที่มีสุขภาพกายใจที่แข็งแรง ขอเป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวค่ะ


กำลังโหลดความคิดเห็น