xs
xsm
sm
md
lg

สบส.แจงขออนุมัติ “โฆษณาสถานพยาบาล” ได้ตลอด ยังไม่มีจับปรับ ด้านสมาคมศัลยกรรมฯ จ่อร้องเรียน รมว.สธ.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สมาคมศัลยกรรมฯ เตรียมยื่นจดหมายถึง รมว.สธ. ร้อง สบส. แจ้งช้า ทำยื่นขออนุมัติ “โฆษณาสถานพยาบาล” ไม่ทัน 30 เม.ย. ห่วงถูกจับปรับฐานผิดกฎหมาย ด้าน สบส. แจงยังไม่มีการตรวจจับ เปิดช่องมาขออนุมัติโฆษณาทั้งตัวเก่าและตัวใหม่ได้ตลอด ไม่มีการเอาผิด เว้นพบเป็นโฆษณาโอ้อวด ย้ำกฎหมายครอบคลุมเน็ตไอดอล เอเยนซี โฆษณาเองไม่ได้เช่นกัน

ความคืบหน้ากรณีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ออกประกาศภายใต้ พ.ร.บ. สถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 ซึ่งบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. 2561 ว่า สถานพยาบาลจะต้องมาขออนุญาตโฆษณาต่อ สบส. เพื่อป้องกันการโฆษณาโอ้อวดเกินจริง ส่วนโฆษณาที่เผยแพร่ไปก่อนหน้านี้ ให้มาขออนุญาตภายใน 90 วัน หรือภายในวันที่ 30 เม.ย. 2561 แต่ สบส.เพิ่งชี้แจงต่อสถานพยาบาลให้ดำเนินการเพียง 4 วันสุดท้าย ทำให้เกิดการคัดค้านจากแพทย์และสถานพยาบาลต่างๆ

วันนี้ (1 พ.ค.) พล.ต.นพ.บวรลักษณ์ เวชกฤตยา อุปนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า สิ่งที่กังวลคือ โฆษณาตัวเก่าที่เผยแพร่ไปแล้ว และต้องมายื่นขออนุญาตภายในวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา แต่ สบส. เพิ่งมาชี้แจงวันที่ 26 เม.ย. แล้วมีเวลาดำเนินการเพียง 2 วันทำการ คือ วันที่ 27 เม.ย. และวันที่ 30 เม.ย. ก็คงไม่มีใครทำไม่ทัน และเมื่อครบกำหนดเช่นนี้ หากมีการออกตรวจว่ายังไม่ได้ขออนุญาตก็เท่ากับผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดมาจากความไม่พร้อมของ สบส. ส่วนโฆษณาตัวใหม่ที่ต้องขออนุญาตเช่นกัน แต่ไม่ใช่ว่าขอแล้วจะได้รับการอนุมัติเลย เพราะต้องรอการพิจารณาอีก ซึ่งอาจต้องใช้เวลา 60 วัน หรือหากดีเลย์ก็อาจถึง 90 วัน ซึ่งเรื่องการควบคุมโฆษณาสถานพยาบาลโอ้อวดเกินจริงเราเห็นด้วย แต่ระบบบริหารจัดการของ สบส. ทำให้สถานพยาบาลแต่ละแห่งดำเนินการไม่ทัน ซึ่งมีเป้นจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากความล่าช้าตรงนี้ โดยสมาคมแพทย์คลินิกไทยอยู่ระหว่างกำลังรวบรวมข้อมูลว่ามีคลินิกที่ได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด

พล.ต.นพ.บวรลักษณ์ กล่าวว่า วันที่ 2 พ.ค. ทางสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย จะเดินทางมายืนจดหมายเปิดผนึกถึง นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ พญ.ประนอม คำเที่ยง อธิบดี สบส. เพื่อให้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานของ สบส. ซึ่งครั้งนี้เราต้องยื่นเรื่องให้ รมว.สาธารณสุข รับทราบ เพราะที่ผ่านมาเคยยื่นเรื่องไปยัง สบส.มาครั้งหนึ่งแล้วว่า การดำเนินการของ สบส. ล่าช้า ทำให้การขออนุญาตไม่น่าดำเนินการได้ทันตามกำหนด นอกจากนี้ ยังกังวลเรื่องของคำห้ามใช้ในการโฆษณา เช่น ทันสมัย ลบริ้วรอย เป็นต้น ซึ่งจะยิ่งทำให้ล้าหลัง และกฎหมายก็ควรครอบคลุมเรื่องการโฆษณาของเน็ตไอดอล เอเยนซีด้วย ไม่ใช่คุมแค่แพทย์หรือสถานพยาบาล มิเช่นนั้นก็จะเป็นการเปิดช่องให้คนกลุ่มนี้โฆษณาได้

ด้าน นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดี สบส. กล่าวว่า สบส. ได้ออกประกาศเรื่อง “หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขและค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล” กำหนดให้การโฆษณาหรือประกาศอันเป็นประโยชน์ทางการค้าของสถานพยาบาล จะต้องขออนุมัติจากผู้อนุญาตคือ สบส.หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ก่อนจึงจะเผยแพร่ได้ ยกเว้นการแสดงชื่อ สถานที่ตั้ง หรือการแสดงรายละเอียดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถานพยาบาลกำหนดให้แสดง ณ สถานพยาบาลนั้นๆ ไม่ต้องขออนุมัติ เพื่อควบคุมการโฆษณาโอ้อวดเกินจริง เพราะกฎหมายฉบับเก่าเป็นแค่ห้ามโฆษณาโอ้อวดเกินจริง ทำให้สามารถโฆษณาได้ทันทีโดยไม่ต้องขออนุมัติ ดังนั้น การกำหนดให้มาขออนุมัติจึงช่วยสกรีนไม่ให้มีโฆษณาโอ้อวดเกินจริง และสถานพยาบาลไม่ต้องดำเนินการผิดกฎหมาย เพราะมีคนกลางช่วยตรวจสอบให้ก่อนเผยแพร่

นพ.ธงชัย กล่าวว่า สำหรับโทษเรื่องโฆษณาสถานพยาบาล คือ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับเพิ่มอีกวันละ 10,000 บาท จนกว่าจะระงับการโฆษณา ส่วนข้อกังวลของสถานพยาบาลที่ว่ามาดำเนินการขออนุญาตโฆษณาที่เผยแพร่ไปแล้วไม่ทันภายใน 90 วัน หรือภายในวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมานั้น คงไม่ใช่ว่าตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เป็นต้นไป จะลงไปตรวจสอบแล้วจับปรับ 20,000 บาท ฐานที่ไม่ขออนุมัติ ซึ่ง สบส. ก็อะลุ่มอล่วยให้มาขออนุมัติได้ตลอด ทั้งโฆษณาตัวเก่าและตัวใหม่ ซึ่งหากมั่นใจว่าโฆษณาที่เผยแพร่ไปแล้วหรือเตรียมจะเผยแพร่ไม่ได้เป็นการโฆษณาเกินจริงก็เข้ามาขออนุมัติเลย

เมื่อถามว่าต้องกำหนดระยะเวลาให้รับมาดำเนินการหรือไม่สำหรับโฆษณาตัวเก่า นพ.ธงชัย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่กำหนดเวลาว่าต้องรีบมาดำเนินการภายในเมื่อใด แต่จะเปิดช่องให้มาขออนุมัติได้เรื่อยๆ เพราะคงยังไม่มีการตรวจเพื่อเอาผิดคนที่ไม่ได้ขออนุมัติ แต่หากโฆษณาที่เผยแพร่อยู่ก่อนแล้วนั้นเป็นการโฆษณาเกินจริงหรือโอ้อวดก็ดำเนินการเอาผิดตามระเบียบ สำหรับข้อกังวลว่าเป้นการเปิดช่องให้เน็ตไอดอลหรือเอเยนซีโฆษณาได้นั้น ยืนยันว่าไม่จริง เนื่องจากกฎหมายระบุชัดว่า “ผู้ใด” จึงหมายถึงทุกคนที่โฆษณาสถานพยาบาลต้องขออนุมัติทั้งหมด ไม่มียกเว้น


กำลังโหลดความคิดเห็น