ใครที่ยังไม่ได้มาร่วมงาน “ใต้ร่มพระบารมี 236 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” ซึ่งรัฐบาลจัดยิ่งใหญ่ เพื่อเทิดพระเกียรติพระมหากษัตริย์และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงจักรีทุกพระองค์ ในขณะนี้เหลือเวลาอีก 2 วันเท่านั้น คือวันที่ 24-25 เม.ย. ส่วนใครที่มาแล้วก็สามารถมาได้อีก เนื่องจากกิจกรรมแต่ละวัน แต่ละสถานที่ไม่ว่าจะที่โรงละครแห่งชาติ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ลานคนเมือง สวนสันติชัยปราการ ล้วนแล้วมีกิจกรรมโดดเด่นแตกต่างกันออกไป
โดยการสาธิตการทำอาหารไทย ทำทองลวดลายโบราณ จำหน่ายสินค้าพื้นเมืองของแต่ละภูมิภาค ของดีบ้านฉัน และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อให้เลือกซื้อโดยไม่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัด พร้อมกันนี้ภายในงานมีอาหารออเจ้า หมู่สร่ง มะม่วงน้ำปลาหวาน ขนม 9 มงคล เช่น เม็ดขนุน ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง อีกด้วย
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า งาน “ใต้ร่มพระบารมี 236 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” จัดกิจกรรมหลายจุด กระจายอยู่รอบเกาะรัตนโกสินทร์ บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จะเป็นโซน "เสน่ห์ไทยเมื่อวันวาน”มีการสาธิตภูมิปัญญาและจำหน่ายอาหารไทยโบราณที่ปัจจุบันหารับประทานได้ยาก นอกจากนี้มี 5 ประเทศอาเซียน “กัมพูชา-อินโดนีเซีย- เมียนมา-ฟิลิปปินส์-เวียดนาม” ร่วมฉลอง 236 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ โดยโชว์สุดยอดการแสดงพื้นบ้านนานาชาติ ขับร้องระบำ-เล่นดนตรี ของแต่ละประเทศ
ภายในงานจัดบริการให้เช่าชุดไทยย้อนยุค แต่งกายย้อนยุค ถ่ายภาพย้อนวันวาน และการแสดงทางวัฒนธรรม อาทิ หุ่นละครเล็กคลองบางหลวง มหกรรมการแสดงพื้นบ้านนานาชาติ และกิจกรรมยลวังหน้ายามเย็น เยี่ยมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำ
สวนสันติชัยปราการ (บางลำพู) จัดเป็นโซน "เสน่ห์บางกอก” สาธิตและจำหน่ายอาหารของดีวิถีชุมชนกรุงเทพมหานคร ร้านค้าของที่ระลึกชุมชนในบางกอก จุดถ่ายภาพ วิถีวัฒนธรรมชุมชนบางลำพู การแสดงทางวัฒนธรรม เช่นการแสดงดนตรีไทยจากดุริยประณีตชุมชนบางลำพู ละครนอก โขนสด พร้อมกันนี้ยังมีมัคคุเทศก์น้อยพาเดินชมงานและวิถีความเป็นอยู่ของชาวบางลำพู
ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร จัดเป็นโซน "เสน่ห์วิถีถิ่น วิถีไทย” ตลาดประชารัฐร่วมใจ ของดีบ้านฉันจาก 4 ภาค สาธิตวิถีชีวิตชุมชน ประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่น จำหน่ายสินค้าและอาหารพื้นเมือง และกิจกรรมการแสดงพื้นบ้าน
นอกจากนี้ยังจัดรถ ขสมก. ไว้บริการประชาชนฟรี สำหรับกิจกรรมไหว้พระเสริมสิริมงคล เยี่ยมยล ชมวัง พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ และศาสนสถาน อาทิ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดสุทัศนเทพวราราม วังบางขุนพรหม วังปารุสกวัน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ มิวเซียมสยาม พิพิธบางลำพู เทวสถาน เป็นต้น
“ประชาชนสามารถเลือกร่วมกิจกรรมตามความสนใจ นอกจากนี้ภายในงานยังจัดมุมไว้ให้ถ่ายรูป เช่น นั่งเรือพายคู่กับออเจ้าเบื้องหลังเป็นวัดไชยวัฒนาราม เพื่อแซะเก็บไว้เป็นที่ระลึก”
ด้าน ปาริฉัตร จาดประดิษฐ์ พนักงานเอกชนแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ตนพร้อมครอบครัวรู้สึกประทับใจ โดยเฉพาะ 11 ริ้วขบวน 10 รัชกาล จัดได้สมพระเกียรติ สื่อทุกพระองค์พัฒนาบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรือง เพื่อประชาชนอยู่ดีกินดี นอกจากนี้ได้มีโอกาสชมการแสดงชุดไทย ผ้าไทย ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจบรรพบุรุษที่คิดค้นลวดลายอันงดงามไว้บนผืนผ้านับว่าเป็นมรดกที่ทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลัง หลังจากชมการแสดงผ้าไทยแล้วตนตั้งใจจะเลือกซื้อผ้าเพื่อนำมาตัดชุดใส่ทำงานด้วย ซึ่งเป็นการอุดหนุนคนไทย และอนุรักษ์ผ้าไทย โดยก่อนหน้านี้คิดว่าใส่ผ้าไทยอาจจะเชย พอเห็นดีไซน์ผ้าไทยบนเวทีที่ออกแบบประยุกต์ให้ทันสมัยแล้ว พบว่า สวยงาม เก๋ ส่วนคุณพ่อกับคุณแม่ ท่านชอบไหว้พระ ชมสถานที่สำคัญๆ
ด้าน ปรีชา ผึ้งศรี ร้านบ้านทองสมสมัย จ.สุโขทัย กล่าวว่า ขอบคุณที่รัฐบาลให้โอกาสมาสาธิตขั้นตอนทำทองลวดลายโบราณ ในระหว่างสาธิตปรากฏว่ามีประชาชนสนใจจำนวนมาก พร้อมชมว่าลวดลายสวย งานละเอียด ประณีต ในขณะนี้มีคนให้ความสนใจทองลายโบราณ ส่วนหนึ่งมาจากละคร บุพเพสันนิวาส ส่งผลให้มีลูกค้ามาสั่งทำเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ทางร้านเน้นคุณภาพ และทุกชิ้นเป็นงานฝีมือใช้เวลาหลายวัน บางชิ้นนานนับเดือนถึงจะได้ 1 ชิ้น
สุดยอด“หนังไทย” สมัย ร. ๙ ฉายให้ชมฟรี
วธ. นำสุดยอดภาพยนตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ ๙ โดยกรุงเทพฯจัดฉาย 10 เรื่อง จากทั้งหมดจำนวน 70 เรื่องได้แก่ เศรษฐีอนาถา แม่นาคพระโขนง ชู้ สุดสาคร น้ำพุ มือปืน 2 สาละวิน กาลครั้งหนึ่งเมื่อเช้านี้ โหมโรง ลุงบุญมีระลึกชาติ และพี่มากพระโขนง ที่โรงภาพยนตร์ สกาลา สยามสแควร์ ระหว่างวันที่ 24-27 เมษายนนี้
ส่วนภูมิภาค จะจัดฉายทั้งหมด 9 เรื่อง ใน 4 จังหวัด ได้แก่ 1. โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา 2. โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เอ๊กซ์ซีเนม่า เมญ่า เชียงใหม่ 3. โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เอ็กซ์ซีเนม่า เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต และ 4. โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ จัดฉายภาพยนตร์ระหว่างวันที่ 7 พฤษภาคม - 23 มิถุนายน 2561
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจเข้าชมภาพยนตร์ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 4 จังหวัด สามารถลงทะเบียนสำรองที่นั่ง ได้ที่ เฟซบุ๊ก content thailand หรือเว็บไซต์ของกระทรวงวัฒนธรรม www.m-culture.go.th หรือสอบถามสายด่วนวัฒนธรรม 1765 (ฟรี)