รศ.นพ.ประจักษ์ ศรีรพีพัฒน์ ภาควิชาศัลยศาสตร์
หากพบผู้สูงอายุมีอาการเดินผิดปกติ ลักษณะเดินช้า ๆ ซอยเท้าถี่ ๆ ดูงุ่มง่าม และหกล้มบ่อย อย่าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโรคในผู้สูงอายุที่รักษาไม่หาย ความจริงแล้ว อาจเกิดจากน้ำคั่งในโพรงสมองที่มีทางรักษาให้กลับมาเดินเป็นปกติได้ รายละเอียดเป็นอย่างไร เรามาทำความรู้จักกับโรคนี้กัน
โรคน้ำคั่งในโพรงสมองในผู้สูงอายุ เป็นภาวะความผิดปกติทางสมองที่เกิดจากโพรงน้ำในสมองมีขนาดใหญ่ขึ้น การขยายตัวของโพรงน้ำไปกดเบียดเนื้อสมองทำให้สมองทำงานผิดปกติ มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เป็นโรคที่มีอุบัติการณ์สูงมาก ถึงระดับที่น่าจะมีผู้ป่วยโรคนี้หลายแสนคนในประเทศไทย จึงควรรู้จักและทำความเข้าใจในการสังเกตผู้สูงอายุในบ้านเพื่อได้ทำการรักษาได้ทันท่วงที
โดยทั่วไปผู้ที่เป็นโรคนี้จะเดินผิดปกติ เดินช้า ก้าวขาไม่ออก ยกขาไม่พ้นจากพื้น เดินซอยเท้า ทรงตัวไม่ดี ล้มบ่อย และมีผู้ป่วยบางรายมาหาหมอด้วยเรื่องล้ม โดยไม่คิดว่าโรคนี้แอบแฝงอยู่ ผู้ป่วยมักจะยืนโน้มตัวไปข้างหน้า ก้มหน้าตัวงอเอียง ปัสสาวะบ่อย บางครั้งเล็ด เข้าห้องน้ำไม่ทัน พูดน้อย เสียงเบาแหบ สำลักน้ำและอาหารบ่อย นั่งไหนหลับนั่น ความจำเสื่อมลง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ลักษณะดำเนินของโรคจะค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป และมีผู้ป่วยบางรายที่มีผลการตรวจเอกซเรย์ที่ผิดปกติ และเข้าได้กับภาวะนี้จำนวนมากจะมีอาการภายใน 4-5 ปี ให้คอยสังเกตและระวัง หากรู้เร็วรักษาเร็วสามารถรักษาหายได้เป็นปกติ
ในการวินิจฉัย แพทย์จะทำการซักประวัติ ดูอาการผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองหรือ CT Scan หรือการตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง หรือ MRI จะพบโพรงน้ำในสมองมีขนาดใหญ่ และพบร่องผิวสมองบริเวณส่วนบนของศีรษะ และบริเวณแนวกลางสมองมีลักษณะแคบและแน่น ร่วมกับมีความผิดปกติของการเดิน ในผู้ป่วยบางรายเราจะใช้การเจาะระบายน้ำจากโพรงสันหลังและผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น ก็เป็นข้อบ่งชี้ว่าเป็นโรคนี้
สำหรับการรักษา แพทย์จะทำการผ่าตัดใส่อุปกรณ์ระบายน้ำเลี้ยงสมอง - ไขสันหลัง เข้าสู่ช่องท้อง ซึ่งเป็นการผ่าตัดที่ใช้ระยะเวลาสั้นมีผลแทรกซ้อนไม่มาก ผลการรักษาได้ผลดี
เทคนิคที่ใช้มี 2 วิธี คือ
1. ใส่อุปกรณ์ระบายน้ำจากโพรงสมองเข้าสู่ช่องท้อง
2. ใส่อุปกรณ์ระบายน้ำจากโพรงสันหลังระดับเอวเข้าสู้ช่องท้อง
โดยอาการต่าง ๆ ผู้ป่วยจะดีขึ้นจนถึงหายเป็นปกติ รวมทั้งสามารถป้องกันหรือหยุดการดำเนินของโรคที่อาจนำมาซึ่งทุพพลภาพในอนาคตจากการหกล้ม การสำลักอาหารหรือน้ำ ตลอดจนแผลกดทับตามร่างกาย ซึ่งมีผู้ป่วยจำนวนมากไม่ได้รับการวินิจฉัยในระยะแรก ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากเสียโอกาสในการป้องกันหรือรักษาโรคดังกล่าว โรคนี้ไม่เพียงส่งผลต่อสุขภาพผู้ป่วยแล้วยังมีผลกระทบต่อครอบครัว ต่อสังคม และล่าสุดทางโรงพยาบาลศิริราชมีการค้นพบองค์ความรู้ใหม่เกี่ยวกับอาการที่พบบ่อยมาก และได้รับการตีพิมพ์รายงานในวารสารทางวิชาการระดับนานาชาติเป็นครั้งแรกของโลก ได้แก่ เสียงแหบ กลืนสำลัก ซึ่งความเข้าใจอาการเหล่านี้จะช่วยในการวินิจฉัยผู้ป่วยได้มากขึ้นด้วย
หลังการผ่าตัดสำหรับผู้ป่วยที่เดินไม่ได้มาเป็นเวลานาน จะมีกล้ามเนื้อขาลีบและอ่อนกำลัง หลังผ่าตัดแล้วสมองจะสามารถสั่งการมาที่ขาให้เดินแล้วก็ตาม แต่หากกล้ามเนื้ออ่อนกำลังไม่สามารถเดินได้ทันที ต้องทำกายภาพบำบัดเพื่อฝึกยืน ฝึกเดิน พยามยามและอดทนทำอย่างต่อเนื่องหลายเดือนจึงเริ่มเห็นผล ที่สำคัญคือพบแพทย์เพื่อติดตามอาการตามนัดทุกครั้ง
******************************
กิจกรรมดี ๆ ที่ศิริราช
# จัดโครงการเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน เรื่อง “โครงการรู้ทันเนื้องอกและมะเร็งสมองกับศิริราช” ตอน “มารู้จักเนื้องอกและมะเร็งสมองกันเถอะ” ขอเชิญผู้ป่วย ญาติ และผู้สนใจร่วมโครงการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 27-29 มีนาคม 2561 เวลา 08.30-14.00 น. ณ โถงอาคาร ๑๐๐ ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ รพ.ศิริราช สอบถามเพิ่มเติม สาขาวิชาประสาทศัลยศาสตร์ ตึกสยามินทร์ ชั้น 12 โทร. 0 2419 8003
# ธนาคารเลือด รพ.ศิริราชขอแจ้งเวลารับบริจาคเลือด ณ ห้องรับบริจาคเลือด ตึก 72 ปี ชั้น 3 ดังนี้ วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.30-18.00 น. วันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30-16.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 2419 8081, 0 2419 7492 ต่อ 123, 128 และออกรับบริจาคเลือดเคลื่อนที่เป็นหมู่คณะในวันเวลาราชการ โทร. 0 2419 8081, 0 2419 7492 ต่อ 110, 08 7944 0817