xs
xsm
sm
md
lg

“หมออุดม” แนะใช้ผลวิจัย google ปั้นคนเก่งดีให้องค์กร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“หมออุดม” ชี้ สถาบันอุดมศึกษาปรับตัวผลิตคนรองรับการเปลี่ยนแปลง เน้นสร้างนวัตกรรม แนะใช้ผลวิจัย google ช่วยสร้างคนเก่งดีให้องค์กร

เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่โรงพยาบาลแก่งคอย จ.สระบุรี ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “บทบาทของกระทรวงศึกษาธิการต่อการสร้างบุคลากรสุขภาพในศตวรรษที่ 21” โดยมี นพ.ประสิทธิ์ชัย มั่งจิตร ผอ.โรงพยาบาลแก่งคอย คณะผู้บริหาร ตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์ การสาธารณสุข และการศึกษา เข้าร่วมงานจำนวนมาก

ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าวว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนสิ่งต่าง ๆ แม้แต่ระบบการเงินก็เกิดความเปลี่ยนแปลงไปมาก อาทิ Bitcoin หรือระบบโลจิสติกส์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้คาดการณ์กันว่า ในปี 2030 จะเกิดการพลิกโฉมในเรื่องของ Health care และการศึกษา ประกอบกับข้อมูลของ World Economic Forum ที่พบว่าในอนาคตเทคโนโลยีด้านสุขภาพจะมีความก้าวหน้าและสามารถแทนคนได้ ทั้งการใช้คอมพิวเตอร์ในการเรียนรู้ ใช้หุ่นยนต์ผ่าตัด การตรวจพบความผิดปกติของ Gene ที่บ่งบอกการเกิดโรค ตลอดจน Biotechnology เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้การรักษาเป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็วและประชากรมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น

ทั้งนี้ ในส่วนของสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งผลิตบุคลากรก็ต้องเผชิญกับความท้าทายและเงื่อนไขที่เปลี่ยนปลงไป ทั้งวัยแรงงานและวัยเด็กลดลง และประชากรเด็กเข้ามหาวิทยาลัยน้อยลง สวนทางกับจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น การแข่งขันในระดับนานาชาติ ตลอดจนการเพิ่มจำนวนมหาวิทยาลัยต่างชาติที่มีศักยภาพสูง

สิ่งเหล่านี้ จะผลักดันให้สถาบันอุดมศึกษาปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลง อาทิ การศึกษาอาชีพในโลกอนาคต, การปรับรูปแบบการเรียนรู้จากที่เรียนรู้จากอาจารย์อย่างเดียว ให้สามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง และสร้างองค์ความรู้ นำสู่การอุดมศึกษาไทยในยุค 4.0 ที่มีหัวใจสำคัญ คือ การสร้างนวัตกรรมและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ให้มีคุณภาพสูงขึ้น เน้นการเพิ่มมูลค่าทรัพยากรและผลิตภัณฑ์ เพื่อลดการนำเข้า รวมทั้งเป็นสังคมของการแบ่งปันและปรับตัวสู่สังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ยุคโลกาภิวัตน์

“สถาบันอุดมศึกษาต้องเตรียมจัดหลักสูตรให้เรียนหลายศาสตร์หลายแขนง และสนองความต้องการของผู้เรียนเป็นหลัก โดยอาจารย์มีหน้าที่ส่งเสริมและอำนวยความสะดวกในสิ่งที่ผู้เรียนอยากรู้ และสามารถนำความรู้ไปใช้ประโยชน์กับอาชีพที่หลากหลายได้ พร้อมเตรียมปรับให้มีการเรียนแบบ Non-Degree มากขึ้น เช่น การเรียนระยะสั้น 6-12 เดือน เพื่อรับประกาศนียบัตรเฉพาะทางหรือเฉพาะทักษะและนำไปประกอบอาชีพได้ ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินงานระดับสากลของ Google และ Microsoft ที่เปิดสอนแบบออนไลน์เพื่อให้ได้ประกาศนียบัตร และมีหน่วยงานรองรับในการเข้าทำงาน” ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าว

นอกจากนี้ มีสิ่งที่ Google ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับ ลักษณะสำคัญที่ทำให้คนประสบความสำเร็จและช่วยองค์กรได้ดี ประกอบด้วย การมีโค้ชที่ดี, การมีทักษะการสื่อสารกับผู้อื่นได้, ทักษะในการเข้าใจผู้อื่นที่มีหลักคิดและทัศนคติที่แตกต่างจากเรา, มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น, มีทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา และสามารถเชื่อมโยงความหลากหลายของผู้คน หากเรานำมาปรับใช้ทั้งในด้านการแพทย์และการศึกษา ก็เชื่อว่าจะสามารถผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพสูงสู่แวดวงด้านการแพทย์และการศึกษาได้มากขึ้น



กำลังโหลดความคิดเห็น