กรมการแพทย์ ส่งทีมหมอ พยาบาล เภสัชกร ดูแลสุขภาพผู้แสวงบุญ ทั้งพระสงฆ์ สามเณร แม่ชี พุทธศาสนิกชน ที่สถานพยาบาลของวัดไทยในอินเดียและเนปาล สร้างความสัมพันธ์ทั้ง 3 ประเทศ พบส่วนใหญ่ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศักดิ์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ช่วง ต.ค.- มี.ค. ของทุกปี จะมีพระภิกษุ สามเณร แม่ชี พุทธศาสนิกชนทั้งคนไทยและต่างชาติ เดินทางไปแสวงบุญในช่วงเทศกาลแสวงบุญของชาวพุทธ ณ สังเวชนียสถาน ประเทศอินเดีย จำนวนมาก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จึงมอบหมายให้กรมการแพทย์จัดทีมแพทย์และพยาบาลไปดูแลรักษาผู้ป่วยที่มารับบริการในสถานพยาบาลของวัดไทยในประเทศอินเดียและเนปาลช่วงเทศกาลดังกล่าวตั้งแต่ปี 2553 ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน จากการให้บริการรักษาพยาบาลโดยไม่เลือกศาสนาและชั้นวรรณะที่ผ่านมาสร้างความพึงพอใจให้แก่พระภิกษุ สามเณร และพุทธศาสนิกชนทั้งคนไทยและต่างชาติเป็นอย่างมาก กรมการแพทย์ จึงได้จัดทำโครงการดูแลผู้ป่วยในสถานพยาบาลของวัดไทยในดินแดนพุทธภูมิระหว่างเทศกาลแสวงบุญของชาวพุทธ ปีงบประมาณ 2561 ระหว่าง พ.ย. 2560 - มี.ค. 2561 เป็นโครงการต่อเนื่อง โดยส่งทีมแพทย์และพยาบาลจากหน่วยงานในสังกัด จำนวน 15 หน่วยงาน ได้แก่ รพ.เลิดสิน รพ.ราชวิถี รพ.นพรัตนราชธานี รพ.เมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) รพ.สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ จ.ชลบุรี สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ สถาบันโรคทรวงอก สถาบันโรคผิวหนัง สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี สถาบันมะเร็งแห่งชาติ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี รพ.ธัญญารักษ์ขอนแก่น รพ.มะเร็งชลบุรี รพ.มะเร็งอุบลราชธานี และ รพ.มะเร็งลำปาง ไปปฏิบัติงานจำนวน 7 ทีม
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า แต่ละทีมประกอบด้วย 2 ทีมย่อย โดย 1 ทีมย่อยประกอบด้วยแพทย์ 1 คน พยาบาล 2 คน และเภสัชกร 1 คน ปฏิบัติงานทีมละ 3 สัปดาห์ หมุนเวียนปฏิบัติงานใน 3 สถานพยาบาล คือ สถานพยาบาลกุสินาราคลินิก วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ โรงพยาบาลพระพุทธเจ้า วัดไทยพุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย และสถานพยาบาลอโรคยาคลินิก วัดไทยลุมพินี สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล ทั้งนี้ ผลการปฏิบัติงานในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2560 ถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 ได้ให้บริการผู้ป่วยทั้งคนไทยและต่างชาติ จำนวน 748 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยชาย 300 ราย ผู้ป่วยหญิง 190 ราย พระภิกษุ 164 ราย สามเณร 9 ราย และแม่ชี 85 ราย ในจำนวนนี้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจมากที่สุด รองลงมาได้แก่ โรคระบบทางเดินอาหาร โรคกล้ามเนื้อและกระดูก โรคผิวหนัง และโรคระบบประสาทและสมองตามลำดับ
“โครงการดูแลผู้ป่วยในสถานพยาบาลของวัดไทยในดินแดนพุทธภูมิระหว่างเทศกาลแสวงบุญของชาวพุทธ นอกจากจะเป็นการปฏิบัติงานเพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยกับประเทศอินเดียและเนปาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนางานสาธารณสุขและคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้ง 3 ประเทศ ตลอดจนเผยแพร่ศักยภาพด้านการบริการรักษาผู้ป่วยของประเทศไทยให้เป็นที่ประจักษ์ต่อนานาประเทศและสนับสนุนการเป็น Medical Hub ของประเทศอีกด้วย” อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าว