xs
xsm
sm
md
lg

ยาเดียว-สมุนไพรตัวเดียวรักษา “มะเร็ง” ทุกชนิดไม่ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อุปนายกสมาคมมะเร็งฯ เตือน “โรคมะเร็ง” ไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีเดียว ยาตัวเดียว หรือสมุนไพรตัวเดียว เหตุมะเร็งแต่ละชนิดรักษาต่างกัน ย้ำ รักษาวิธีธรรมชาติมีประโยชน์ และก็มีโทษด้วย ด้านโซเชียลแพร่ข้อมูลป่วยมะเร็งปากมดลูก กิน “สมุนไพร” ชื่อดัง แล้วเลือดออกมาก สูตินรีแพทย์เตือนยิ่งเลือดออกยิ่งอันตราย

วันนี้ (7 ก.พ.) รศ.นพ.วิโรจน์ ศรีอุฬารพงศ์ อุปนายกสมาคมมะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการรักษามะเร็งด้วยการแพทย์ทางเลือก ว่า คนไข้มะเร็งเป็นคนน่าสงสาร เป็นคนที่สิ้นหวัง ต้องการกำลังใจอย่างมาก แต่ต้องเข้าใจว่า การรักษามะเร็ง ไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยการรักษาในวิธีการเดียว หรือ ยาตัวเดียวกัน ในมะเร็งแต่ละชนิดก็มีการรักษาที่แตกต่างกัน ทั้งการผ่าตัด ฉายแสง เคมีบำบัด แต่ละที่แต่ละจุดแตกต่าง ยาก็คนละชนิด สิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมในขณะนี้ จากกรณีหมอแสง กังวลเรื่องโอกาสการรักษาของผู้ป่วยที่ยังมีโอกาสหายขาดจากยามะเร็ง เข้าใจว่า การรักษาด้วยแพทย์ทางเลือกเป็นความเต็มใจของผู้ป่วย แต่การหายหรืออาการดีขึ้นในผู้ป่วยมะเร็ง เป็นเรื่องเฉพาะแต่ละคน อาจดีด้วยจิตใจ หรือ ร่างกาย หลายส่วนประกอบกัน เรื่องนี้เป็นยังคงเป็นช่วงว่างในสังไทยที่ต้องการพิสูจน์ แต่ต้องยอมรับว่าการรักษาหายขาดจากมะเร็งเป็นไปได้ยาก

รศ.นพ.วิโรจน์ กล่าวว่า การรักษามะเร็งแผนปัจจุบันไม่ได้กังวลกับการที่คุณแสงชัย จะได้รับเป็นหมอพื้นบ้านหรือไม่ ส่วนเรื่องตัวยาหรืออะไรที่มาจากธรรมชาติ อยากให้ทุกคนเข้าใจ ว่าไม่ใช่จะมีความปลอดภัยเสมอไป อย่างทุเรียนเทศก็ส่งผลต่อตับไต ธรรมชาติทุกอย่างก็มีอันตรายได้อย่าง เช่น เห็ดพิษ มีอันตรายถึงแก่ชีวิต ฉะนั้น สูตรยาที่เกิดขึ้น ยังต้องมีการศึกษาวิจัยและทดลองอย่างชัดเจน เพราะอาจมีประโยชน์ บางอย่างและอาจเกิดโทษบางอย่าง การรับประทายยา 4 - 8 เม็ด แล้วจะหายหรือดีขึ้นนั้น ต้องดูในระยะยาว เพราะผู้ป่วยบางรายก็ไม่ได้มีโอกาสบอกว่าดีขึ้นหรือยาหรือไม่ เนื่องจากภาวะของโรค และบางรายก็เสียชีวิตไปแล้ว

“ทางสมาคมมะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย คงไม่ออกมาตอบโต้ หรือออกประกาศเกี่ยวกับกระแสหมอแสง แต่อยากให้สังคมฉุกคิดให้ถี่ถ้วน และอย่าได้ละทิ้งการรักษาแพทย์ปัจจุบัน แต่เมื่ออาการของโรคดำเนินมาถึงระยะที่ไม่สามารถรักษาหายได้ ก็ไม่จำเป็นที่ต้องแสวงหาทางเลือกในการรักษาเสมอไป เพราะธรรมชาติก็มีอันตรายได้เสมอ” รศ.นพ.วิโรจน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้มีการแชร์ข้อมูลในโซเชียลมีเดีย ระบุว่า มีญาติเป็นมะเร็งปากมดลูกแล้วไปใช้สมุนไพรรักษามะเร็งชื่อดัง แล้วพบว่าญาติมีเลือด และลิ่มเลือดออกที่ช่องคลอดจำนวนมาก และมีกลิ่นเหม็นมาก ซึ่งต่อมามีผู้มาแสดงความเห็นว่าขอให้อดทนเพราะสมุนไพรกำลังเข้าไปขับของเสียออกจากร่างกาย

พญ.ชัญวลี ศรีสุโข สูตินรีแพทย์ประจำ รพ.พิจิตร กล่าวว่า โรคมะเร็งปากมดลูกเป็น 1 ใน 2 ชนิดโรคมะเร็งในสตรี ซึ่งสามารถตรวจเจอได้ตั้งแต่ช่วงที่เซลล์มีความผิดปกติเป็น 10 ปี หากมาตรวจภายในทุกๆ 3 ปี จะเจอแล้วสามารถรักษาให้หายได้ก่อนจะกลายเป็นโรคจริง แต่ถ้าไม่ได้รับการรักษาพอโรคลุกลามแล้วโอกาสในการรักษาให้หายจะลดลงเรื่อยๆ ทั้งนี้ กรณีที่อยู่ระหว่างรักษาแล้วมีเลือด หรือลิ่มเลือดออกนั่นหมายความว่าโรคมีความรุนแรงขึ้น จะไม่มีเด็ดขาดที่จะมาบอกว่าเป็นการขับของเสีย หรือขับโรคออกจากร่างกาย ยิ่งเลือดออกมายิ่งหมายความว่าไม่ปกติ การเสียเลือดมากก็ทำให้เสียชีวิตจากการเสียเลือดมากอีกด้วย มีผู้ป่วยจำนวนมากที่เสียชีวิตหลังจากไม่รักษาแล้วไปกินสมุนไพรต่างๆ แล้วเชื่อว่าเป็นการขับของเสียออกจากร่างกาย ยืนยันว่า การที่เลือดออกนั้นจะสัมพันธ์กับความรุนแรงของโรคที่เพิ่มขึ้น

พญ.ชัญวลี กล่าวต่อว่า โรคมะเร็งปัจจุบันในระยะต้นๆ มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และงานวิจัยที่เป็นวิทยาศาสตร์ทั่วโลกยืนยันว่าการรักษาแพทย์แผนปัจจุบันมีโอกาสหายมากที่สุด ดังนั้นเมื่อไรที่เป็นมะเร็งในระยะต้นๆ แล้วปฏิเสธการรักษาแผนปัจจุบันจะทำให้ลดโอกาสหายและเพิ่มโอกาสเสียชีวิตมากขึ้น ดังนั้นอยากให้ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษาโรคขอให้อิงหลักความเป็นจริงก่อน เพราะโอกาสหายจากโรคมะเร็งขึ้นอยู่กับระยะเวลา ซึ่งให้โอกาสผู้ป่วยเพียงครั้งเดียวในการตัดสินใจว่าจะเดินไปซ้ายหรือขวา ทางการแพทย์แผนปัจจุบันไม่ได้ปฏิเสธที่จะใช้แพทย์ทางเลือกร่วมด้วย แต่ขอคนไข้ว่าอย่าปฏิเสธการแพทย์แผนปัจจุบัน ในกรณีที่ยังรักษาได้


กำลังโหลดความคิดเห็น